สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่า ที่ประชุมยูเอ็นจีเอลงมติเห็นชอบดังกล่าว ซึ่งไม่มีผลผูกพันในทางกฎหมาย ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 149 เสียง รวมทั้ง 10 ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) คัดค้าน 12 เสียง รวมถึงสหรัฐและอิสราเอล และงดออกเสียง 19 เสียง ส่วนอีก 13 ประเทศไม่เข้าร่วมการประชุม

สาระสำคัญของมติดังกล่าว คือการเรียกร้องให้ “หยุดยิงในฉนวนกาซาในทันที ไม่มีเงื่อนไข และถาวร” รวมถึงให้ “ปล่อยตัวประกันทั้งหมดในทันที และไม่มีเงื่อนไข”

อย่างไรก็ตาม ข้อมติฉบับนี้ไปไกลกว่ามติของที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งสหรัฐที่เป็นหนึ่งในสมาชิกถาวร ใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีเนื้อหาเพียงขอให้ “ยุติการปิดล้อมทันที” และรับรองว่า “ความช่วยเหลือจะไปถึงพลเรือนปาเลสไตน์” อีกทั้งเรียกร้องรัฐสมาชิกยูเอ็น “ใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดตามกฎหมายระหว่างประเทศ” ทั้งในระดับประเทศและระดับกลุ่ม เพื่อให้มั่นใจ ว่าอิสราเอลปฏิบัติตามพันธกรณีของตน

ก่อนการลงคะแนนเสียง นายแดนนี ดานอน เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า “เป็นเรื่องตลก ความล้มเหลวทางศีลธรรม และกลอุบายทางการเมือง” ขณะที่นายริยาด มานซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทุกประเทศเปลี่ยนคะแนนเสียงให้เป็น “การกระทำที่เด็ดขาด”.

เครดิตภาพ : AFP