สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่ารายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเมียนมาจะหดตัว 2.5% ในปีงบประมาณปัจจุบัน ที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. 2569 โดยส่วนใหญ่เป็นผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซึ่งทำให้ผลผลิตลดลงมากกว่าที่คาดไว้ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64,992 ล้านบาท)

แถลงการณ์ระบุว่า การผลิตในทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบเนื่องจากโรงงานปิดตัวลง ห่วงโซ่อุปทานถูกจำกัด การขาดแคลนแรงงาน และโครงสร้างพื้นฐานได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น แผ่นดินไหวยังสร้างความเสียหายอีกประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 357,258 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 14% ของจีดีพี

เวิลด์แบงก์คาดการณ์ว่า กรุงเนปิดอว์และเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากแผ่นดินไหว จะเผชิญกับการผลิตที่ลดลงถึง 1 ใน 3 ระหว่างเดือน เม.ย.-ก.ย. ก่อนจะได้รับแรงหนุนในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ

น.ส.เมลินดา กู๊ด ผู้อำนวยการเวิลด์แบงก์ประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าวว่า แผ่นดินไหวทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้พลัดถิ่นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ได้ทำให้สภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากจากการสู้รบเลวร้ายลงอีก

ธนาคารโลกระบุว่า การสู้รบทำให้เงินเฟ้อของเมียนมาอยู่ที่ 34.1% ในปีที่สิ้นสุดเมื่อเดือน เม.ย. 2568.

เครดิตภาพ : AFP