สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย เดินทางไปยังเมืองอัห์มดาบาด ในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของประเทศ เพื่อสำรวจขอบเขตความเสียหายของพื้นที่ประสบเหตุ เครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของแอร์อินเดีย เที่ยวบินเอไอ171 ซึ่งมุ่งหน้ากรุงลอนดอน พร้อมผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน ตกหลังเทคออฟไม่นาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


ขณะเดียวกัน ผู้นำอินเดียเดินทางไปเยี่ยมนายวิศวาส กุมาร ราเมศ ชาวสหราชอาณาจักรเชื้อสายอินเดีย วัย 40 ปี ซึ่งเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเที่ยวบินนี้ ซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองอัห์มดาบาด

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย ลงพื้นที่บริเวณหอพักนักศึกษาแพทย์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินอัห์มดาบาด และได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง หลังเครื่องบินโดยสารของแอร์อินเดียตกใส่


ด้านนายนายัน กุมาร ราเมศ น้องชายของนายวิศวาส ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองเลสเตอร์ ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ได้คุยกับพี่ชายแล้วเล็กน้อย ซึ่งกล่าวว่า “ไม่รู้เลยว่าออกมาจากเครื่องบินได้อย่างไร”


ทั้งนี้ เที่ยวบินเอไอ171 ลำที่ประสบเหตุ มีผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน แบ่งเป็นชาวอินเดีย 169 คน ชาวสหราชอาณาจักร 53 คน ชาวโปรตุเกส 7 คน และชาวแคนาดา 1 คน ส่วนลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย และเครื่องบินลำที่ประสบเหตุ เป็นเครื่องบินโดยสาร 787-8 ดรีมไลเนอร์ ของบริษัทโบอิ้ง ซึ่งเป็นการตกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเครื่องบินรุ่นดังกล่าว นับตั้งแต่เริ่มมีการให้บริการอย่างเป็นทางการ เมื่อปี 2554


กัปตันประจำเที่ยวบินเอไอ171 มีประสบการณ์บินสูงถึง 8,200 ชั่วโมง และผู้ช่วยนักบินมีประสบการณ์บินสะสม 1,100 ชั่วโมง


ขณะที่ทาทา กรุ๊ป ซึ่งเป็นเจ้าของแอร์อินเดีย ประกาศมอบเงิน 10 ล้านรูปี (ราว 3.7 ล้านบาท) เพื่อมอบให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 265 ราย แบ่งเป็นผู้อยู่บนเครื่องบิน 241 ราย และผู้ที่อยู่ในอาคารหอพักนักศึกษาแพทย์อีกอย่างน้อย 24 ราย และยืนยันจะดูแลผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว จนกว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บ และกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ.

เครดิตภาพ : AFP