เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณรภณ วัฒนะกรทวี ผกก.2 บก.ทท.3 กวดขัน จับกุม ป้องกันปราบปราม อาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและโดยเฉพาะต่างด้าวกระทำผิดกฎหมาย ต่อมา พ.ต.ท.พิทยา เทพเมือง สว.งานสืบสวน กก.2 บก.ทท.3 ทำการสืบสวนหาข่าวการกระทำความผิดของชาวต่างชาติในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับการร้องเรียน แจ้งเบาะแสว่ามีหญิงชาวต่างชาติชาวรัสเซีย อ้างตนเองว่าเป็นหมอ สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ โดยวิธีการฉีดยาหรือสื่งอื่นใดเข้าสู่ร่างกาย โดยได้ประชาสัมพันธ์ตนเองผ่านทางสื่อออนไลน์ ซึ่งชาวต่างชาติที่สนใจ จะมีการนัดสถานที่เพื่อให้บริการรักษาโรคนั้น

ทางชุดสืบสวน กก.2 บก.ทท.3 ได้สืบสวนเรื่อยมาเเละได้ให้สายลับ เข้าไปติดต่อกับหญิงต่างชาติดังกล่าวทาง WhatsApp ชื่อ Marina ที่อ้างว่าเป็นหมอและสามารถรักษาอาการป่วยได้ เเละพูดคุยสอบถามจนสามารถนัดหมายให้มีการให้บริการฉีดยารักษาอาการป่วยหรือฟื้นฟูร่างกายให้หายจากอาการข้างเคียงจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

จึงได้ทำการนัดหมายหญิงรัสเซียที่อ้างตัวว่าเป็นหมอคนดังกล่าว นัดเจอกันที่ห้องเช่าเเห่งหนึ่งในตัวเมืองภูเก็ต โดยมีการพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นเงิน 6,000 บาท โดยสายลับได้จ่ายเงินให้กับหญิงรัสเซียไป หญิงคนดังกล่าวจึงได้นำอุปกรณ์ที่เตรียมมาด้วยจะทำการฉีดยา เจ้าหน้าที่จึงได้เเสดงตนเเละทำการจับกุม ทราบชื่อ น.ส.วิคตอเรีย เฟรมาร์ค สัญชาติรัสเซีย อายุ 33 ปี พร้อมด้วยของกลางจำนวน 47 รายการ

จากการสอบสวน น.ส.วิคตอเรีย ให้การว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส.มารีน่า ที่เป็นเพื่อนชาวรัสเซียด้วยกัน ว่าให้ตนเดินทางมาบริการฉีดยารักษาอาการป่วยนอกสถานที่ ให้กับบุคคลที่ติดต่อผ่านทางเพจออนไลน์ โดย น.ส.วิคตอเรีย ยังแจ้งอีกว่าตนเองไม่ใช่แพทย์และไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ได้ทำการรักษาอาการให้กับลูกค้าโดยการฉีดยาเข้าร่างกายด้วยผลิตภัณฑ์นี้ มาแล้ว 2-3 ครั้ง

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหา 1.ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับใบรับอนุญาต 2.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่รับอนุญาต 3.ผลิต ขาย หรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต และ4.เป็นบุคคลต่างด้าว ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.