เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกาประชุม ครม.สัญจร ที่โรงแรมโซฟิเทลกระบี่ โภคีธรา แอนด์ สปา รีสอร์ท จ.กระบี่ ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อารมณ์ดี ขอบคุณรัฐมนตรีทุกคนที่ช่วยลงพื้นที่ 6 จังหวัดอันดามัน และขอให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงที่เกี่ยวข้องไปดูว่ากระทรวงของตนเองต้องทำเรื่องไหน และใครเป็นเจ้าภาพหลัก ทั้งนี้ รัฐบาลอยากอนุมัติงบ ประมาณให้เยอะกว่านี้ แต่เก็บภาษีไม่เข้าเป้า เพราะต้องนำงบประมาณ 25% ต่อจีดีพี ไปใช้แก้ปัญหาโควิด-19 และเยียวยาประชาชน ซึ่งไทยถือเป็นอันดับ 2 ของโลก ก่อนที่นายกฯ จะพูดแซวใน ครม.ว่า “ใช้กันเก่งจริงๆ แต่ละคน ช่วยกันหาหน่อย”
สำหรับประเด็นการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน วาระแรกวันที่ 17 พ.ย. ที่ประชุม ครม.ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก มีเพียง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวสั้นๆ ว่า “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ต้องคงอยู่คู่ประเทศไทย และขอให้ยึดตามแนวทางมติพรรคของตนเอง ไม่ดำเนินการกระทบกับสถาบัน และขอฝากพรรคร่วมรัฐบาลไปทำความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวกับประชาชน และดูเรื่องการทำประชามติด้วย”
จากนั้นช่วงท้ายการประชุม ครม.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กำชับรัฐมนตรีให้ไปเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในวันที่ 28 พ.ย. ใครอยู่เขตท้องถิ่นไหนให้ไปใช้สิทธิลงคะแนน หากใครไม่สามารถเดินทางไปลงคะแนนได้ก่อน 7 วันและหลัง 7 วัน ต้องแจ้งเหตุผลความจำเป็น หากใครไม่ไปใช้สิทธิลงคะแนนจะหลุดออกจากตำแหน่งทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม ครม.นายกฯ ได้เรียก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้าหารือที่ห้องรับรอง โดยไม่มีการเชิญรัฐมนตรีคนใดเข้าร่วมหารือด้วย ซึ่งใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง.