สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ว่าพล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายละเมิดบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการรังวัดและกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างไทย-กัมพูชา ปี 2543 (เอ็มโอยู 2543) มากถึง 695 ครั้ง ไม่เพียงเฉพาะการลาดตระเวนรุกล้ำพรมแดน แต่ยังรวมถึงการก่อสร้างถนน และสิ่งกีดขวาง โดยไม่มีการแจ้งให้กัมพูชาทราบล่วงหน้า


พล.อ.เตีย เซ็ยฮา กล่าวว่า “เป็นเรื่องตลก” ที่คณะผู้แทนฝ่ายไทยกล่าวหากัมพูชาละเมิดเอ็มโอยู 2543 ระหว่างการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (เจบีซี) เมื่อวันที่ 14-15 มิ.ย. ที่ผ่านมา และกล่าวหากัมพูชาทำไร่นารุกล้ำเขตแดน และการร้องเพลงที่ปราสาทตาเมือนธม ทั้งที่ฝ่ายไทยละเมิดเอ็มโอยูมากกว่าเสียอีก


พล.อ.เตีย เซ็ยฮา กล่าวอีกว่า ตราบใดที่ทั้งสองประเทศยังคงใช้แผนที่คนละแบบ โดยกัมพูชายึดมั่นตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ส่วนไทยยึดมั่นตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ไม่ว่าจะเป็นอีกกี่สิบปี หรือ 1,000 ปี ปัญหานี้ไม่มีทางคลี่คลาย กัมพูชาจึงตัดสินใจยื่นเรื่องดังกล่าว ให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก ที่กรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้พิจารณา


พล.อ.เตีย เซ็ยฮา เน้นว่า แม้ยังไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า กระบวนการของศาลโลกจะพิพากษาให้ใครเป็นฝ่ายชนะ แต่อย่างน้อย ทั้งสองประเทศจะได้ข้อสรุปร่วมกัน เกี่ยวกับสถานะของพื้นที่พิพาททั้ง 4 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ ซึ่งกัมพูชาเรียกว่า สามเหลี่ยมมรกต และไทยเรียกว่า ช่องบก.

เครดิตภาพ : AFP