สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ว่า นายกีเดียน ซาร์ รมว.การต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดฉากปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่าน เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา อิสราเอลสามารถสังหารผู้บัญชาการทหารที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน และนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านอีกหลายคน
ขณะเดียวกัน ผลการประเมินยังระบุด้วยว่า ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอล สามารถทำให้โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านถดถอยอย่างหนัก และศักยภาพในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของอีกฝ่ายอาจล่าช้าไปอีก 2-3 ปี
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ยืนยันว่า อิสราเอลสามารถ “กำจัด” ศักยภาพทั้งหมดของอิหร่านที่เกี่ยวข้องกับโครงการนิวเคลียร์ ไม่ว่ารัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าร่วมภารกิจทางทหารครั้งนี้หรือไม่
ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า จริงอยู่ที่สหรัฐเป็นประเทศแห่งเดียว ซึ่งมีศักยภาพทางทหารเพียงพอ ที่จะสามารถโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของอิหร่าน เนื่องจากสหรัฐมี “ระเบิดเจาะทะลวงขนาดยักษ์” รหัส “จีบียู-57” ซึ่งเป็นอาวุธเจาะบังเกอร์เพียงชนิดเดียว ที่สามารถเข้าถึงโรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ แต่ไม่ได้หมายความว่า “สหรัฐต้องทำแบบนั้น”
ทั้งนี้ โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โดว์ตั้งอยู่ใต้ดิน “ในระดับลึกมาก” ในสถานที่ซึ่งเคยเป็นฐานทัพของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) มีระบบรักษาความปลอดอย่างแน่นหนา และได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถทนต่อการโจมตีทางอากาศแบบทั่วไปได้.
เครดิตภาพ : AFP
