สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่า พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวระหว่างเป็นประธานปิดการประชุม คณะกรรมการกลางของสหภาพสหพันธ์เยาวชนกัมพูชา (ยูวายเอฟซี) เกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย มีเนื้อหาในตอนหนึ่งว่า
“ท้ายที่สุดแล้ว กลุ่มชาตินิยมในไทย ใช้เรื่องนี้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองภายในของไทย แล้วนำมาเชื่อมโยงกับกัมพูชา โดยกล่าวหาว่า พวกเราละเมิดพรมแดนมากถึง 600 ครั้ง รวมถึงกรณีที่ชาวกัมพูชาไปขึ้นร้องเพลงบนปราสาท ซึ่งตั้งอยู่บนดินแดนที่อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชาเอง” และกล่าวอีกว่า ในอดีตเคยมีกระแสให้ขับไล่ชาวกัมพูชาออกจากไทยมาแล้ว
PM Hun Manet has stated that solving the current tense situation between Cambodia and Thailand is very easy – Thailand needs to first open border crossings, then talk about withdrawing troops. https://t.co/z0j9bkTQlW
— Khmer Times (@KhmerTimes) June 23, 2025
พล.อ.ฮุน มาเนต ยืนยันว่า รัฐบาลกัมพูชาไม่ใช่ฝ่ายจุดประเด็นความขัดแย้งกับไทย และรัฐบาลกัมพูชาเปิดโอกาสให้มีการเจรจามาโดยตลอด และอ้างว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เคยกล่าวว่า “หากจะรบกัน แล้วจะเจรจาระดับทวิภาคีกันได้อย่างไร” พร้อมกล่าวว่า กระแสชาตินิยมในไทยได้ลุกลามมาถึงกัมพูชาเป็นที่เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน ผู้นำกัมพูชายืนยันว่า “เป็นฝ่ายอดทนมาตลอด” และเรียกร้องให้ทางการไทย หันกลับไปมองปัญหาภายในของตนเอง ซึ่งเต็มไปด้วยเกมออนไลน์และอาชญากรรม และย้ำว่า นักการเมืองไทยพยายามใส่ร้ายป้ายสีกัมพูชา เพื่อทำลายชื่อเสียงของประเทศ สร้างความโกรธเคืองให้กับชาวกัมพูชา
เมื่อทหารไทยยิงใส่ทหารกัมพูชา ระหว่างการปะทะกันที่ชายแดน เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่กล่าวหาทหารกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน แล้วชาวกัมพูชาจะอยู่เฉยได้อย่างไร.
เครดิตภาพ : AFP