วิลล่าออโรร่าถือว่าเป็นที่พักอาศัยที่หรูหราในเขตกรุงโรม ด้วยเนื้อที่ 2,800 ตารางเมตรพร้อมสวนสวย แต่สิ่งที่หรูหราที่สุดในคฤหาสน์แห่งนี้คือเพดานห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งประดับด้วยภาพวาดต้นฉบับจากฝีมือของ มิเกลันเจโล เมรีซี หรือ ‘คาราวัจโจ’ ศิลปินชาวอิตาลีที่มีชื่อเสียงในยุคบาโรก

ภาพวาดบนเพดานอันเป็นผลงานของคาราวัจโจ ศิลปินดังชาวอิตาลี ซึ่งเฉพาะภาพนี้ภาพเดียวก็มีมูลค่าสูงกว่าหมื่นล้านบาท

วิลล่านี้เดิมเป็นบ้านพักตากอากาศ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยพระคาร์ดินัลฟรานเชสโก มาเรีย เดล มอนเต ต่อมาภายหลังได้ขายให้ครอบครัวลูโดวิซี ตระกูลขุนนางอิตาลีที่เป็นเจ้าของคนปัจจุบัน

คฤหาสน์แห่งนี้จะถูกนำออกประมูลขายในวันที่ 18 มกราคม 2565 โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 471 ล้านยูโร (17,457 ล้านบาท)

การประกาศขายดังกล่าวเป็นผลจากข้อพิพาทเกี่ยวกับมรดกอันยาวนาน หลังจากการสิ้นพระชนม์เมื่อปี 2561 ของเจ้าชายนิโกโล บอนคอมปานี ลูโดวิซี เจ้าของคนก่อนหน้านี้ และมีความเกี่ยวข้องกับภรรยาคนที่ 3 ของพระองค์

เจ้าหญิงริตา บอนกอมปานี ลูโดวิซี ผู้ที่เกิดและเติบโตในรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา แต่อาศัยอยู่ในวิลล่าแห่งนี้มา 18 ปีแล้ว บอกกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า บิลล์ เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เคยสนใจจะซื้ออสังหาริมทรัพย์แห่งนี้ เช่นเดียวกับประมุขแห่งกาตาร์

“ฉันก็แค่สวดอ้อนวอนและหวังว่าใครก็ตามที่ซื้อวิลล่า จะรักที่นี่มากเท่ากับที่เรารัก” เธอกล่าว น้ำเสียงสั่นเครือด้วยอารมณ์

ในปี ค.ศ. 1597 พระคาร์ดินัลเดลมอนเต นักการทูตและผู้อุปถัมภ์ศิลปะ ได้มอบหมายให้คาราวัจโจในตอนอายุยี่สิบต้นๆ วาดภาพบนเพดานห้องเล็กๆ บนชั้นหนึ่งของวิลล่า ซึ่งเขาใช้เป็นห้องทดลองเล่นแร่แปรธาตุ

จิตรกรรมฝาผนังขนาดกว้าง 2.75 เมตร ใช้เทคนิคการวาดสีน้ำมันลงบนผนังปูนโดยตรง เป็นภาพเชิงสัญลักษณ์ที่ประกอบไปด้วยเทพจูปิเตอร์ เทพเนปจูน และเทพพลูโต เป็นตัวแทนของธาตุต่าง ๆ

รายละเอียดของภาพวาดในระยะใกล้ จะมองเห็นว่าคาราวัจโจเขียนใบหน้าของเทพทั้งสามองค์เป็นหน้าของเขาเอง

คาราวัจโจยังวาดใบหน้าและร่างของเขาเองลงบนเทพทั้งสาม เฉพาะภาพจิตรกรรมฝาผนังเพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่าสูงถึง 310 ล้านยูโร (11,489 ล้านบาท)

วิลล่าแห่งนี้ตั้งชื่อตามจิตรกรรมฝาผนังเทคนิคปูนเปียกโดยศิลปินสไตล์บาโรกอีกคนหนึ่งชื่อ อิล เกร์ซิโน ซึ่งประดับอยู่บนเพดานขนาดใหญ่ของโถงทางเข้า ภาพนี้เป็นภาพของ ‘ออโรร่า’ เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ กำลังนั่งอยู่บนรถเทียมม้า

วิลล่าแห่งนี้มีกำแพงสูงล้อมรอบ อยู่ใกล้กับถนนเวียเวเนโตที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์คลาสสิกเรื่อง “La Dolce Vita” ในปี ค.ศ. 1960 ของเฟรเดริโก เฟลลินี ผู้กำกับชื่อดังชาวอิตาลี ภายในวิลล่ายังประดับประดาด้วยประติมากรรม โบราณวัตถุและรูปปั้นจำนวนมาก รวมถึงประติมากรรมรูปเทพเจ้าแพน ซึ่งเป็นผลงานของ มิเกลันเจโล หรือไมเคิล แองเจโล ยอดศิลปินชาวอิตาลีจากยุคเรอเนสซองส์

เครดิตภาพ : Reuters, Getty Images