เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 30 มิ.ย. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้อง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้พิจารณากรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ที่ภรรยาเป็นผู้ถือหุ้น และบริษัทผู้รับมอบอำนาจในการถือหุ้น ส่งเรื่องกลับและไม่รับเป็นผู้ถือหุ้นแทน จึงทำให้ขัดต่อคุณสมบัติของนายพีระพันธุ์ ที่จะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีอีกต่อไป
โดยนายสนธิญา กล่าวว่า หลังจากที่นายกฯ ได้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้น ตนไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี แต่เรื่องที่ตนมายื่นนี้เกี่ยวข้องกับกรณีคุณสมบัติของนายพีระพันธุ์ จากกรณีของการถือหุ้น ซึ่งเป็นภรรยาของนายพีระพันธุ์ และในกรณีของหุ้นตัวนั้นมีการยื่นให้บริษัทถือหุ้นแทนหลังจากวันที่นายพีระพันธุ์ รับตำแหน่งไป โดยนายพีระพันธุ์ ประกาศรับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2567 จากนั้นวันที่ 4 ก.ค. 2567 ภรรยาของนายพีระพันธุ์ ก็ยื่นหนังสือให้กับบริษัทที่จะรับเป็นผู้ถือหุ้นแทน ซึ่งถือว่ามีการยื่นหลังเป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา บริษัทที่รับถือหุ้นแทนนั้นได้ส่งหนังสือกลับไปที่ภรรยาของนายพีระพันธุ์โดยแจ้งไปในหนังสือว่าเขาไม่สามารถรับเป็นผู้ดำเนินการจัดการเกี่ยวกับหุ้นแทนได้
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า เพราะบริษัทของภรรยาของนายพีระพันธุ์มีกฎอยู่ข้อหนึ่ง คือห้ามโอนย้ายถ่ายเทหุ้นไปให้กับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บุคคลสืบสายเลือดเดียวกัน ซึ่งมีการระบุชัดเจนว่าขอให้การที่ยื่นไปก่อนนั้นถือว่าเปรียบเสมือนไม่ได้ยื่นในการเอาหุ้นไปให้กับบริษัทนั้นบริหารจัดการ ซึ่งเท่ากับว่าภรรยาของนายพีระพันธุ์ถือหุ้นมาตั้งแต่ก่อนที่นายพีระพันธุ์ จะรับตำแหน่งและหลังรับตำแหน่งด้วย หมายความว่านายพีระพันธุ์กับภรรยาก็เป็นผู้ที่ถือหุ้นเกินกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นเมื่อบริษัทที่รับถือหุ้น ไม่สามารถรับถือได้จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญ นั่นคือการถือหุ้นของรัฐมนตรีและคู่สมรสไม่สามารถถือได้เกิน 5 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นที่มาของการที่จะต้องแจ้งให้ทางนายกรัฐมนตรีทราบในประเด็นของการถือหุ้นนี้ ว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และในประเด็นนี้นายพีระพันธุ์ ก็จะนำไปสู่การสิ้นสภาพของการเป็นรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีเฉพาะตัว
นายสนธิญา กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายพีระพันธุ์ ยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทหนึ่งที่ประกอบด้วยคุณแม่ของนายพีระพันธุ์ ด้วยนั้น เมื่อแม่เสียชีวิตแล้วแต่การดำเนินกิจการในบริษัทนั้นก็ยังดำเนินกิจการเรื่อยมา มีการกู้ยืมและยังมีเงินสะพัดอยู่ และผู้ที่มีอำนาจเซ็นคนเดียวคือนายพีระพันธุ์ โดยตนมีการทำหนังสือและขอความกรุณาให้นายพีระพันธุ์ชี้แจงในประเด็นเรื่องการถือหุ้นทั้งหมดรวมทั้งของภรรยาด้วย แต่ทางนายพีระพันธุ์ กลับไม่ชี้แจงและได้ไปชี้แจงเรื่องอื่นตลอดมา ตนจึงได้เดินทางไปร้องเรียนหลายที่เพื่อให้ตรวจสอบในประเด็นนี้ โดยเอกสารที่ตนได้มานั้นเป็นเอกสารทางราชการของกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ฉะนั้นนายพีระพันธุ์สามารถที่จะชี้แจงหรือยื่นข้อมูลมาได้ ซึ่งตนยื่นถึงนายกฯ ฉบับนี้เป็นครั้งที่ 4 ให้มีการตรวจสอบ เพราะนายกฯ สามารถสั่งการให้ตรวจสอบได้ถึงบริษัทที่นายพีระพันธุ์ถือหุ้นอยู่ เมื่อไม่ได้รับคำชี้แจงจากนายกฯ ไม่มีการตรวจสอบ ตนจึงไปยื่นถึงองคมนตรีเพื่อที่จะให้องคมนตรีโปรดพิจารณาวินิจฉัย
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า วันนี้ตนมาร้องเรียนนายกฯ เพื่อโปรดพิจารณาวินิจฉัยและปลดนายพีระพันธุ์ ออกจากตำแหน่ง เพราะการกระทำชัดเจนว่าผิดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ และหากนายกฯ ไม่ดำเนินการตามที่ตนร้องเรียนภายในวันที่ 4 ก.ค. 2568 ตนจะถวายฎีกาขึ้นไปและจะเอาเหตุผลประกอบทั้งหมดนี้ส่งไปยังองคมนตรี เพื่อโปรดพิจารณาและวินิจฉัยในกรณีการขาดคุณสมบัติ ของรองนายกฯ และรมว.พลังงาน อีกครั้งหนึ่ง การทำงานของรัฐมนตรีไม่ว่าคนใดต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามกฎหมายรวมถึงเป็นไปตามหลักนิติธรรมอย่างครบถ้วน