สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ว่า นายกีเดียน ซาร์ รมว.การต่างประเทศอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลกำลังพิจารณาขยายจำนวนสมาชิกในข้อตกลงอับราฮัม เพื่อการสร้างสันติภาพและความสัมพันธ์แบบปกติ โดยอิสราเอล “มีความสนใจ” ฟื้นฟูและยกระดับความสัมพันธ์ กับซีเรียและเลบานอน
ทั้งนี้ ข้อตกลงอับราฮัมเกิดขึ้นเมื่อปี 2563 โดยสหรัฐมีบทบาทสำคัญ ปัจจุบันมีภาคี คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) บาห์เรน โมร็อกโก และซูดาน
Israeli Minister of Foreign Affairs Gideon Saar says #Israel is "interested" in normalizing ties with #Syria and #Lebanon. pic.twitter.com/NprQoolxLT
— Al Arabiya English (@AlArabiya_Eng) June 30, 2025
อย่างไรก็ตาม ซาร์ย้ำว่า ที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งสำคัญระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย และทำให้ทั้งสองประเทศยังมีสถานะคู่สงครามในทางทฤษฎี จากการที่อิสราเอลยึดครองพื้นที่แทบทั้งหมด หลังเป็นฝ่ายชนะสงครามหกวัน เมื่อปี 2510 “จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล” ไม่ว่าจะมีการเจรจาข้อตกลงสันติภาพแบบใดก็ตาม
ภายหลังประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย หมดอำนาจอย่างฉับพลัน เมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว อิสราเอลส่งทหารเข้าไปประจำการอย่างเต็มรูปแบบบนที่ราบสูงโกลัน และใช้เป็นฐานปฏิบัติการโจมตีกองกำลังติดอาวุธในซีเรีย.
เครดิตภาพ : AFP