เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทีมงานคนหนึ่งที่อยู่ในกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Rust ให้การในศาลว่าในบทภาพยนตร์ไม่มีคิวที่ต้องยิงปืนในฉากที่อเล็ก บอลด์วินกำลังซ้อม ซึ่งต่อมาเกิดอุบัติเหตุปืนลั่นจนทำให้ตากล้องสาวของเรื่องเสียชีวิตเมื่อเดือนก่อน

มามี่ มิตเชลล์ ที่ปรึกษาด้านบทภาพยนตร์กล่าวหาว่าอเล็ก บอลด์วินควรตรวจสอบปืนด้วยตัวเองว่ามีกระสุนจริงบรรจุอยู่หรือไม่ แทนที่จะเชื่อตามที่ผู้ช่วยผู้กำกับบอกว่าปืนโคลต์ .45 กระบอกดังกล่าวนั้นปลอดภัยที่จะใช้ในฉาก

“ในความคิดเห็นของเรา คุณบอลด์วินตัดสินใจจะเล่นเกมรัสเชียนรูเล็ตต์ตอนที่เขายิงปืนออกไปโดยที่ไม่ได้ตรวจสอบปืน และไม่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธทำการตรวจสอบต่อหน้าเขา” กลอเรีย ออลเรด ทนายความของมิตเชลล์กล่าวในงานแถลงข่าว

ตามสำนวนของคดีฟ้องร้องดังกล่าวที่ยื่นต่อศาลสูงลอสแอนเจลิส มิตเชลล์ซึ่งอ้างว่าเธออยู่ในวิถีกระสุน กล่าวหาว่ามีการทำร้ายร่างกาย เจตนาก่อให้เกิดความทุกข์ใจและจงใจให้เกิดอันตราย และต้องการเรียกร้องค่าเสียหาย

มิตเชลล์กล่าวว่าเธอโดนหลอกหลอนด้วยเสียงปืนขณะยิงในเหตุการณ์นั้นนับครั้งไม่ถ้วน เธอเป็นผู้ที่โทรแจ้งเหตุฉุกเฉินไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันทีที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2564

คดีฟ้องร้องนี้เป็นคดีที่ 2 ที่มีผู้ยื่นฟ้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ปืนลั่นในกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Rust ระบุชื่อบอลด์วิน, ทีมโปรดิวเซอร์, ผู้ช่วยผู้กำกับเดฟ ฮอลล์ส์และฮันนาห์ กูเตียเรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธซึ่งเป็นคนรับผิดชอบอาวุธทุกชิ้นที่ใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้

ตัวแทนของบอลด์วิน ทีมโปรดิวเซอร์และฮอลล์ส์ยังไม่แสดงความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้ ส่วนทนายความของกูเตียเรซกล่าวว่าเขายังไม่เห็นสำนวนฟ้อง

ตามสำนวนฟ้องระบุว่าบทภาพยนตร์เรื่อง Rust กำหนดให้ฉากนั้นถ่ายทำเป็นมุมใกล้สามมุม ได้แก่ มุมแสดงภาพดวงตาของบอลด์วิน มุมที่แสดงภาพของรอยเลือดและมุมที่ 3 เป็นภาพบริเวณลำตัวของบอลด์วิน “ในขณะที่เขาเลื่อนมือไปยังซองปืนและปลดปืนออกจากซอง”

หลังจากนั้น บอลด์วินก็ “เจตนาง้างนกและยิงปืนที่บรรจุกระสุนไว้โดยไม่มีข้ออ้างหรือมีเหตุอันควร แม้ว่าในฉากถัดไปไม่ได้ระบุให้มีการง้างนกปืนและยิงออกมา”

ออลเรดกล่าวว่าเธอเชื่อว่าพฤติกรรมของบอลด์วินขณะอยู่ในกองถ่ายนั้นเป็นความ “สะเพร่า” และอ้างว่ามีการละเลยมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างอื่น

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซิร์จ สเวตนอย หัวหน้าทีมช่างไฟฟ้าของ Rust ยื่นฟ้องทีมโปรดิวเซอร์ในข้อหากระทำการโดยประมาท

เครดิตภาพ : Reuters