แคนาดาคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่มขนาดใหญ่ในมณฑลบริติชโคลัมเบียจะเพิ่มขึ้น โดยทางเขตได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในวันพุธที่ผ่านมา และรัฐบาลกลางสัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่ยืนยันการเสียชีวิต 1 ราย หลังฝนตกหนักและโคลนถล่มถนนหลายสาย ส่งผลให้เมืองใกล้ภูเขาหลายแห่งถูกตัดขาด มีผู้สูญหายอย่างน้อยสามคน

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในรถบนถนนที่ประสบเหตุดินถล่ม

มาร์โก เมนดิซิโน รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของแคนาดา กล่าวว่า มีผู้ที่ต้องอพยพออกจากที่อยู่ราว 18,000 คน

“เราคาดว่าจะพบผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” จอห์น ฮอร์แกน ผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นบริติชโคลัมเบียกล่าว โดยระบุว่าภัยพิบัติดังกล่าวว่าเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในรอบ 500 ปี

“เราจะบังคับใช้ข้อจำกัดในการเดินทาง และจะขนส่งสินค้าจำเป็น บริการทางการแพทย์และฉุกเฉินไปยังชุมชนที่ต้องการให้ได้” ฮอร์แกน กล่าวในการแถลงข่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้คนงดกักตุนเสบียง

น้ำท่วมและดินโคลนถล่มยังทำให้ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแวนคูเวอร์ต้องหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกที่อยู่ในภาวะตึงเครียดอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด กล่าวว่ารัฐบาลจะช่วยให้มณฑลฟื้นตัวจากสิ่งที่เขาเรียกว่า “ภัยพิบัติร้ายแรงอย่างที่สุด” แน่นอน ทางกรุงออตตาวากำลังส่งบุคลากรกองทัพอากาศหลายร้อยนายไปช่วยเหลือและ “ยังมีอีกหลายพันคนอยู่ในสถานะเตรียมพร้อม” ทรูโด กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงวอชิงตัน ก่อนการประชุมซัมมิตสหรัฐ-แคนาดา-เม็กซิโก ในวันพฤหัสบดีนี้

เมืองที่ได้รับผลกระทบบางแห่งอยู่ในพื้นที่ภูเขาที่ห่างไกลซึ่งเข้าถึงได้ยากและอุณหภูมิในระดับเยือกแข็ง เอริก ทอมป์สัน โฆษกหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินของพื้นที่กล่าวว่า ในเมืองทูลามีน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแวนคูเวอร์ มีผู้คนติดอยู่มากถึง 400 คน หลายคนไม่มีไฟฟ้าใช้

“เมื่อเร็ว ๆ นี้เราต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ไปส่งอาหาร” เขาบอกกับสื่อมวลชนของแคนาดา ในเมืองโฮป ห่างจากแวนคูเวอร์ทางตะวันออก 160 กม. อาหารเริ่มลดน้อยลง ศิษยาภิบาลเจฟฟ์ คุน กล่าวว่า 1 ใน 4 ของชาวเมืองจำนวน 6,000 คน ต้องการที่พัก

อาสาสมัครประมาณ 100 คน ที่วัดซิกข์ดุคฮ์ นิรวาณ ซาฮิบ กุรทวาราในเมืองเซอร์เรย์ ใช้เวลาตลอดทั้งคืนในวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเตรียมอาหารประมาณ 3,000 มื้อ จากนั้นจึงจ้างเฮลิคอปเตอร์ไปส่งอาหารให้ที่เมืองโฮป

ภัยพิบัตินี้อาจเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้แคนาดาต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ น้ำท่วมครั้งนี้เป็นภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในเขตบริติชโคลัมเบียภายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ภับจากไฟป่าครั้งก่อนทำลายล้างบางเมืองได้ทั้งเมือง

เกิดเหตุไฟไหม้รถพ่วงที่จอดอยู่ในลานหลังจากพายุฝนทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในเมืองแอบบอตส์ฟอร์ด

ผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของแคนาดาตั้งแต่เมล็ดพืชไปจนถึงปุ๋ยและน้ำมัน ต่างพยายามเปลี่ยนเส้นทางการขนส่งออกจากแวนคูเวอร์ แต่กลับพบว่ามีทางเลือกอื่นไม่มากนัก

บริษัทการรถไฟแคนาดาแปซิฟิกและการรถไฟแห่งชาติแคนาดาซึ่งเป็นบริษัทรถไฟที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ 2 แห่ง กล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าเส้นทางของพวกเขาไปยังแวนคูเวอร์ยังคงไม่สามารถใช้งานได้

หลังจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “แม่น้ำในบรรยากาศ” ได้ส่งน้ำฝนจำนวนมหาศาลเทียบเท่าปริมาณน้ำฝนที่ตกในหนึ่งเดือนลงมายังพื้นล่างในเวลาเพียงสองวัน เจ้าหน้าที่ก็กังวลว่าหากมีฝนตกลงมาอีกครั้ง น้ำอาจท่วมสถานีสูบน้ำใกล้เมืองแอบบอตส์ฟอร์ดซึ่งอยู่ห่างจากแวนคูเวอร์ไปทางตะวันออก ซึ่งมีประชากร 160,000 คน และต้องอพยพไปแล้วเป็นบางส่วน

นายกเทศมนตรี เฮนรี เบราน์ กล่าวว่าอาสาสมัครช่วยสร้างเขื่อนรอบสถานีในชั่วข้ามคืน “นั่นจะซื้อเวลาให้เราได้นานขึ้น แต่ถ้าเรามีเหตุการณ์สภาพอากาศเช่นที่เพิ่งผ่านไป เราก็จะตกที่นั่งลำบากมาก” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ชาวนาในเมืองแอบบอตส์ฟอร์ดเพิกเฉยต่อคำสั่งให้อพยพและพยายามช่วยชีวิตสัตว์จากน้ำที่ขึ้นสูง ในบางกรณีก็ใช้วิธีการผูกเชือกรอบคอของวัวและดึงพวกมันขึ้นที่สูง ลานา พ็อพแฮม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของมณฑลกล่าวว่าสัตว์หลายพันตัวต้องตาย และต้องทำการุณยฆาตให้สัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย ขณะที่หน่วยงานสิ่งแวดล้อมของแคนาดาแจ้งว่าแอบบ

อตส์ฟอร์ดจะมีฝนตกลงมาอีกในสัปดาห์หน้า

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามช่วยเหลือฝูงสัตว์ที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่หลังเกิดน้ำท่วมหนักในแอบบอตส์ฟอร์ด

เจ้าหน้าที่กู้ภัย ไมค์ แดงส์ ซึ่งอยู่ในทีมอพยพของแอบบอตส์ฟอร์ดกล่าวว่าสถานการณ์เลวร้ายมาก

“คนส่วนใหญ่มีพ่อแม่ผู้สูงอายุที่เดินไม่ได้ ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม” เขากล่าวกับสื่อท้องถิ่น

เครดิตภาพ : Reuters