กรณี น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ทำงานอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ร้องผู้สื่อข่าวช่วยเหลือหลังถูก นางเอ๋ (นามสมมุติ) หญิงที่อ้างตัวว่าเป็นร่างทรงของท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแม่กวนอิม ญาณทิพย์ของหลวงปู่โต และหลวงปู่แหวน หลอกขอยืมเงินไปกว่า 1 ล้านบาท จนปัจจุบันต้องแบกรับภาระหนี้สินรวมกว่า 2 ล้านบาท ต้องออกมาขอความช่วยเหลือจากหมอปลา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. น.ส.ไก่ พร้อมด้วย นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อภิวิชญ์ จันทวงศ์ รอง ผกก.(หน.งานสอบสวน) สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพื่อหารือข้อกฎหมาย และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

สาวใหญ่ร้องถูกเจ้าแม่ร่างทรง ยืมเงินกว่า1ล้าน-ไม่ยอมคืน วอนหมอปลาช่วยด้วย!

นายกฤษฎา เปิดเผยว่า วันนี้ตนพา น.ส.ไก่ เหยื่อร่างทรง เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการของพนักงานสอบสวน สอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนพิจารณาดำเนินการในเรื่องคดีความกับ นางเอ๋ ต่อไป โดยขณะนี้มีเหยื่อของ นางเอ๋ รายอื่นๆ เริ่มแสดงตัวออกมาให้ข้อมูลกับตนบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามหากมีเหยื่อ หรือผู้เสียหายที่คิดว่าถูกร่างทรงรายดังกล่าวหลอกลวง สามารถติดต่อได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “หมอปลาช่วยด้วย” หรือ “ทนายโนบิ” เพื่อขอความช่วยเหลือได้

น.ส.ไก่ เปิดเผยว่า ช่วงที่ยังมีความสนิทสนมกัน นางเอ๋ ร่างทรง เคยเล่าที่มาของบ้านที่อยู่กับครอบครัวในปัจจุบันให้ฟังว่า มีลูกศิษย์หญิงรายหนึ่งมีเงินเดือน 50,000 บาท ด้วยความศรัทธาในร่างทรงถึงขั้นส่งเงินให้ใช้ทุกเดือน เดือนละ 20,000 บาท ต่อมาลูกศิษย์รายดังกล่าวประสบปัญหาเรื่องเงินสูญเสียบ้าน โดย นางเอ๋ ได้ไปช้อนซื้อบ้านหลังนั้นมาเป็นของตัวเองในราคาถูก เช่นเดียวกันกับกรณีของตน ที่ต้องสูญเสียที่ดิน 6 ไร่ เพราะกลอุบายหลอกยืมเงิน จนชีวิตย่ำแย่ ก่อนที่นางเอ๋ จะใช้วิธีเดียวกันที่ทำกับลูกศิษย์รายนั้น

น.ส.ไก่ เผยอีกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สอนให้เข้าใจว่า ความเชื่อความศรัทธายามที่เราสิ้นหวังในชีวิต มันทำให้เราหากำลังใจ และหาที่พึ่ง เลยทำให้เราหลงผิด ไปเชื่อพวกร่างทรง คิดว่าเขาเข้าใจเราที่สุด คิดว่าเป็นผู้มีศีล เป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่ ณ วันนี้ เรามีสติ ทำให้รู้ว่า ต้องเมตตาตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งมันไม่คุ้มกับที่เราต้องสูญเสียไป