เหตุการณ์ช็อกโลก!!” นับแต่ยุคอดีตถึงยุคปัจจุบันมีเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งหากเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทุก ๆ ประเทศ หรือเกี่ยวโยงกับหลาย ๆ ประเทศ ก็มักจะเป็นเหตุการณ์ที่ “เป็นที่จดจำ” ต่อเนื่องยาวนาน… แต่ก็มีหลาย ๆ เหตุการณ์ที่แม้จะเกิดในประเทศเดียวแต่อีกมากมายหลายประเทศก็พากันช็อกด้วย…และก็กลายเป็น “เหตุการณ์ที่โลกไม่ลืม” ซึ่งนี่ก็รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ช็อกโลก!!” เป็น“คดีดังช็อกโลก!!”ที่ผ่านมาเนิ่นนานจนจะครบ 58 ปีในวันที่ 22 พ.ย. 2564 นี้แล้ว…นั่นคือเหตุการณ์…

ลอบสังหาร “เจเอฟเค-จอห์น เอฟ. เคนเนดี”
ประธานาธิบดีลำดับที่ 35 ของสหรัฐอเมริกา”…
โลกไม่ลืม” เพราะคือผู้นำสหรัฐเท่านั้นล่ะหรือ??

ย้อนไปเมื่อ 22 พ.ย. 2506 “จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John Fitzgerald Kennedy)” หรือ “เจเอฟเค (JFK)” ผู้นำสหรัฐในขณะนั้น “ถูกลอบสังหาร” ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างนั่งอยู่บนขบวนรถไปกับ แจ็กเกอลีน เคนเนดี โอนาสซิส ภริยา ซึ่งมีรายงานข่าวว่ามือปืนลั่นกระสุนสังหารดังก้องโลกคือ ลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ แต่แล้วต่อมาเขาคนนี้ก็ถูกยิงตายโดย แจ็ค รูบี ในขณะที่ “คดีลอบสังหารเจเอฟเค” นั้นได้กลายเป็นคดี “แฝงเงื่อนงำปริศนา??” กลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์…ระดับโลก!!”

ทั้งนี้ คดีช็อกโลกคดีนี้ ที่ถึงวันนี้ความลึกลับซับซ้อนซ่อนปมก็ดูจะยังไม่เคลียร์?? และ แม้แต่ในไทยยุคนี้เมื่อใกล้จะถึงวันที่ 22 .. ก็มีกระแสมีการย้อนระบุถึง “เหตุการณ์ลอบสังหารเจเอฟเค” ปรากฏขึ้นอีกเช่นกันนั้น… กับประเด็น “ไฉนกลายเป็นเหตุการณ์ที่โลกไม่ลืม?? ซึ่ง แม้แต่คนไทยก็มีไม่น้อยที่เหตุการณ์นี้ยังคงอยู่ในความทรงจำ??…ประเด็นนี้เรื่องนี้ รศ.ดร.สมชาย ภคภาสวิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ ได้ช่วยวิเคราะห์และสะท้อนผ่านมาทาง “เดลินิวส์” รวมถึงประเด็น ประเทศไทยคนไทยไปรู้สึกรู้สาอะไรด้วยกับการที่เจเอฟเคถูกลอบสังหาร?? ด้วย…

ทาง รศ.ดร.สมชาย ระบุว่า… ปัจจัยที่ทำให้คดี “จอห์น เอฟ. เคเนดี” หรือ “เจเอฟเค” โด่งดัง อยู่ในความทรงจำประการหนึ่งมาจากตัวบุคคล คือเจเอฟเค ซึ่งถือเป็น “ผู้นำที่มีคนรัก” มีผู้คนที่รู้สึกว่าเป็น “ผู้นำที่ยิ่งใหญ่” และนอกจากนี้ยังมีปัจจัยเหตุผลอื่น ๆ ที่ทำให้คดีลอบสังหารคดีนี้อยู่ในความสนใจของผู้คนทั้งในสหรัฐ และในประเทศอื่น ๆ มาตลอด กล่าวคือ…

เหตุผลหนึ่ง… ตำแหน่งของผู้ที่เสียชีวิต” ซึ่งไม่เคยมีเรื่องเช่นนี้มาก่อน ในสหรัฐไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐถูกลอบสังหาร ซ้ำเป็นการลอบสังหารขณะดำรงตำแหน่ง ที่สำคัญ “เจเอฟเค” เวลานั้นเป็น “บุคคลที่โลกจับตา” ว่าเป็นผู้นำดาวรุ่ง

จะรุ่งโรจน์…แต่กลับต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร!!
ซ้ำเป็นการเสียชีวิตโดยถูกลอบสังหารที่มีเงื่อนงำ??

และอีกเหตุผลหนึ่ง… เสียชีวิตขณะมีโครงการที่โลกจับตา” ก่อนเจเอฟเคเสียชีวิต ผู้นำสหรัฐคนนี้ได้ริเริ่มโครงการต่าง ๆ ที่ทำให้โลกจับตามองมากมาย รวมถึงการ ส่งพลเมืองสหรัฐออกไปทั่วโลก เพื่อไปสอนหนังสือให้ประชาชนในประเทศต่าง ๆ และสนับสนุนให้ออกไปทำงานในประเทศต่าง ๆ ด้วย โดยถึงแม้ในยุค “เจเอฟเค” จะมีกรณีที่สหรัฐเป็นจุดสนใจของโลกในแง่ลบอย่างการที่สหรัฐเข้าไปยุ่งกิจการภายในของคิวบา หรือการเพิ่มกองกำลังเข้าเวียดนาม ถึงแม้จะถูกโลกมองว่าเป็นอีกยุคที่ “สหรัฐพยายามแผ่อำนาจ” แต่ขณะเดียวกัน…ก็มีกรณีที่ทำให้“เจเอฟเคถูกมองเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของโลก”

โดยเฉพาะกรณี… ดำเนินนโยบาย “เลี่ยงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 เลี่ยงการเกิดสงครามนิวเคลียร์!!” นัยว่าเป็นการกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้นำสหรัฐ โดยตอนนั้น “สหภาพโซเวียต” ได้ส่งขีปนาวุธให้คิวบา ทางสหรัฐจับได้ก็มีการใช้กองกำลังที่มีอาวุธปรมาณูโอบล้อม ซึ่งหากมีการยิงกันก็จะมีโอกาสเกิดสงครามโลก เพราะสหภาพโซเวียตก็คงไม่ยอมง่าย ๆ… เพื่อจะเลี่ยงสงคราม เจเอฟเคได้ใช้วิธีการที่มีความอ่อนนุ่ม…แต่ก็เต็มไปด้วยความแข็งกร้าว…โดยที่ไม่เป็นการนำไปสู่สงครามโลก ด้วยการบอกกับสหภาพโซเวียตเลยว่าจะถอนกำลังของนาโตออกจากตุรกี เพื่อแลกกับการให้สหภาพโซเวียตถอยกลับไป เพื่อไม่ทำให้สหภาพโซเวียต ผู้นำสหภาพโซเวียต ต้องเสียหน้า เพราะถ้าเสียหน้าก็จะต้องมีการรบกันเกิดขึ้นแน่นอน…

นี่ก็เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่คนจดจำ”

นอกจากนั้น ก็ยังมีองค์ประกอบอื่นที่ทำให้ “เจเอฟเค” ยังอยู่ในความทรงจำของโลก โดย รศ.ดร.สมชาย ชี้เพิ่มว่า… อย่างการที่เจเอฟเค สนับสนุนส่งเสริม “สิทธิมนุษยชน” และ มี “บุคลิกภาพความเป็นผู้นำ” ที่ถึงแม้จะมีแง่ลบด้วย แต่ดูจากประวัติก็จะเห็นว่า “มีความเป็นฮีโร่” ยอมเสี่ยงตาย ช่วยลูกน้องในช่วงสงคราม ซึ่งประวัติชีวิต บวกบุคลิกภาพ กับสถานการณ์การเป็นประธานาธิบดี ผสมผสานเป็น “ประธานาธิบดีหนุ่มที่มีภาพลักษณ์ยิ่งใหญ่” และการเสียชีวิตก็เป็นในลักษณะเหมือนฮีโร่ เหมือนพระเอกหนังที่ต้องมาเสียชีวิตในตอนที่กำลังดังขึ้นมา ทำให้คนจดจำเขา ทั่วโลกยังให้ความสำคัญ มีการพูดถึงเขาอยู่เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ …ซึ่งจากปัจจัย เหตุผล องค์ประกอบ เหล่านี้ก็แผ่อิทธิพลมาถึงไทย-มาถึงคนไทยด้วย โดย รศ.ดร.สมชาย บอกว่า…

อย่างผมเองก็ยังจดจำเขาได้ ในเรื่องในเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผมพูดไปรวมถึงประวัติในเรื่องของการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ และการมีบทบาทในเรื่องของประชาธิปไตยคนไทยก็เหมือนกับคนทั่วโลก ที่หลายคนยังจดจำเขา…”

นี่ “จะ 58 ปีแล้ว!!”…เหตุการณ์ “เจเอฟเคถูกยิงตาย!!”
หากแต่ถึงวันนี้…“เสมือนว่าเจเอฟเคเนเวอร์ดายส์”
โลกยังไม่ลืม-ไทยก็ไม่ลืม” บุรุษผู้นี้…“เจเอฟเค”.