ภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ย.

เท่ากับปฏิทินการเมืองเริ่มนับหนึ่งเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามกฎ กติกา มารยาทใหม่ โดยมีสาระสำคัญ 2 ประเด็น

(1) ประเด็นแรก กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 500 คน แก้สัดส่วน ส.ส.จากเดิมกำหนดให้มี ส.ส.แบบแบ่งเขต 350 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน เปลี่ยนใหม่ใช้สูตร ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน

(2) ประเด็นที่สองเปลี่ยนระบบเลือกตั้งจากเดิมใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสม (MMP) บัตรเลือกตั้ง 1 ใบ เปลี่ยนไปใช้ระบบเลือกตั้งแบบผสม (MMM) บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ บัตรใบแรกเลือก ส.ส.เขต และบัตรใบที่สองเลือกพรรคการเมือง นำคะแนนทั้งประเทศไปคำนวณที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อแต่ละพรรคการเมือง

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ฝ่ายเกี่ยวข้องคือคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือ ส.ส. จํานวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของสภาผู้แทนราษฎร ต้องเดินหน้าตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 131 เสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

โดยรัฐธรรมนูญ มาตรา 132 กำหนดเงื่อนไข รัฐสภาต้องดำเนินการพิจารณาให้เสร็จภายในกรอบ 180 วัน ทำให้ไทม์ไลน์การแก้กฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญแบ่งเป็น 4 ช่วงสำคัญ

(1) ช่วงแรก ม.ค. 2565 ฝ่ายเกี่ยวข้องส่งร่างกฎหมายลูกให้ที่ประชุมรัฐสภา

(2) ช่วงสอง ก.พ.-มี.ค. 2565 ที่ประชุมรัฐสภาลงมติวาระที่ 1 และวาระที่ 2

(3) ช่วงสาม เม.ย. 2565 มีแนวโน้มเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาสมัยวิสามัญลงมติวาระที่ 3

(4) ช่วงสี่ พ.ค.-มิ.ย. ภายหลังลงมติวาระที่ 3 รัฐสภา ต้องส่งร่างกฎหมายลูกไปที่ ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความเห็น

(4.1) หากไม่มีข้อทักท้วง ให้รัฐบาลเพื่อนำร่างกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ

(4.2) หากมีข้อทักท้วง เห็นว่ามีข้อความที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้รัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมตามข้อเสนอก่อนส่งให้รัฐบาลนำร่างกฎหมายลูกขึ้นทูลเกล้าฯ

บวกลบคูณหาร คาดว่าการปรับแก้กฎหมายลูกประกอบรัฐธรรมนูญ เรื่องบัตรเลือกตั้งสองใบ จะเสร็จสิ้น 100% และมีผลบังคับใช้ช่วงกลางปี 2565

เมื่อถึงช่วงนั้นเท่ากับเป็นสัญญาณให้พรรคการเมืองสั่งไพร่พลติดดาบปลายปืน รอจังหวะเข้าตะลุมบอนในสมรภูมิเลือกตั้ง

ทางฝั่งพรรคเพื่อไทย ต้ังเป้ากติกาใหม่ บัตรสองใบต้องชนะกวาดเก้าอี้ ส.ส.แบบแลนด์สไลด์ เอาชนะเสียง 250 ส.ว.ในสภา หงายไพ่ใบสำคัญ เปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยงานพรรคแบบเต็มตัว

ด้านพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค สั่งเดินทัพมุ่งลงใต้เตรียมตีหัวเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันเปิดฉากบุกเมืองหลวงภาคอีสาน จ.ขอนแก่น หวังยึดพื้นที่พรรคเพื่อไทย

หลายฝ่ายประเมินการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นฉากดุเดือดเลือดพล่านมากที่สุดครั้งหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
โดยมีเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นั่งลากยาวมาตั้งแต่ปี 2557 เป็นเดิมพัน!