สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีมักดาเลนา อันเดอร์สสัน ลาออกจากตำแหน่งผู้นำสวีเดน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีไม่รับรองแผนงบประมาณของรัฐบาลผสมพรรคสังคมประชาธิปไตยกับพรรคกรีน แต่ไปรับรองแผนงบประมาณของฝ่ายค้านซึ่งครองเสียงข้างมากแทน ขณะที่ พรรคกรีนขอถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลผสม


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลายังไม่ถึง 8 ชั่วโมง หลังที่ประชุมมีมติด้วยเสียงสนับสนุน 117 เสียง คัดค้าน 174 เสียง งดออกเสียง 57 เสียง และมีผู้ไม่เข้าร่วมประชุม 1 คน รับรองการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้กับ อันเดอร์สสัน รมว.คลัง คนปัจจุบัน และหัวหน้าพรรคสังคมประชาธิปไตย


ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญของสวีเดน ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องได้รับเสียงสนับสนุนข้างมากจากสภา ขอเพียงแค่ไม่มีเสียงคัดค้านเกินกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ คือ 175 เสียง ผลการลงมติที่ออกมาจึงเพียงพอในทางกฎหมายให้ อันเดอร์สสัน วัย 54 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของสวีเดน


อย่างไรก็ตาม อันเดอร์สสัน กล่าวว่า เธอเชื่อมั่นที่จะได้รับการแต่งตั้งจากสภา ให้กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้ง ในฐานะผู้นำรัฐบาลจากพรรคการเมืองเดียว โดยการคาดการณ์ของเธอมีความเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากทุกพรรคการเมืองในสภามีท่าทีชัดเจน ว่ายังคงสนับสนุนให้อันเดอร์สสันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้านพรรคกรีนยืนยันเช่นกัน แม้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลก็ตาม


สำหรับการขึ้นสู่ตำแหน่งของอันเดอร์สสันเกิดขึ้น หลังนายสเตฟาน เลิฟเวียน ขอลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่กล่าวว่า การเลือกตั้งก่อนกำหนด “ไม่ใช่ทางออกดีที่สุด” สำหรับสวีเดน สื่อว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะอยู่ในวาระของเลิฟเวียน จนถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ตามกำหนด คือในเดือน ก.ย. 2565


อนึ่ง การที่สวีเดนมีจุดยืนชัดเจนเรื่องการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และการให้ผู้หญิงมีสิทธิเลือกตั้งทั่วไปตั้งแต่ 100 ปีที่แล้ว การมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกตอนนี้ จึงถือว่าช้ามาก เทียบกับศรีลังกาซึ่งเป็นประเทศแรกของโลก ที่มีนายกรัฐมนตรีหญิง เมื่อปี 2503.

เครดิตภาพ : AP