นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า เพดานราคาน้ำมันดีเซลที่จะอุดหนุนในทุกกรณียังอยู่ที่ 30 บาทต่อลิตร เพียงแต่เมื่อราคาลดลง และเรายังใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนอยู่  จึงคาดการณ์แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะแตะระดับลิตรละ 28 บาทได้ ส่วนการหารือกับสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ยังต้องการให้ราคาดีเซลปรับลงเหลือ 26-27 บาท คงต้องคุยกันทั้งหมด อาจมีทางหรือไม่มีทางก็ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ หากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับสูงขึ้น ยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนได้ ต่อไป คาดว่าเงินกู้ 20,000 ล้านบาท จะได้ใช้ต้นปีหน้า ตอนนี้สภาพคล่องกองทุนฯ ยังดูแลได้อยู่

ผู้สื่อข่าวรายว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้เรียกประชุมหารือนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาหาแนวทางลดราคาน้ำมันตามนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โดยผลการประชุมมีมติเคาะแนวทางปรับสูตรน้ำมันดีเซลเหลือเพียง 1 ชนิด คือ บี 7 จากปัจจุบันมี 3 ชนิด คือ บี 7 บี 10 และบี 20 ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลจะลดลงลิตรละประมาณ 50-80 สต. ส่งผลให้ราคาขายปลีกมีแนวโน้ม อยู่ที่ประมาณ 28 บาทต่อลิตร เริ่ม 1 ธ.ค. 64-31 มี.ค. 65 รวม 4 เดือน

ทั้งนี้มีผู้บริโภคหลายรายเข้าใจว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 64-31 มี.ค. 65 รวม 4 เดือน ราคาน้ำมันดีเซล จะอยู่ที่ลิตรละไม่เกิน 28 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เพราะที่กระทรวงพลังงานระบุว่า ราคาลิตรละ 28 บาท เป็นการคาดการณ์แนวโน้มราคา จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบัน ที่จะมีต้นทุนลดลง 50-80 สต. จากการลดส่วนผสมไบโอดีเซลลงมา ส่วนราคาจริงๆ เท่าไร จะต้องคำนวณจากราคาน้ำมันในตลาดโลก และราคาไบโอดีเซล ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นสำคัญ อาจจะต่ำกว่า 28 บาท หรืออาจมากกว่า 28 บาทนิดหน่อยก็ได้ และราคาดีเซลตลอด 4 เดือน จะไม่ได้เท่ากับลิตรละ 28 บาทไปตลอด ต้องขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นสำคัญด้วยเช่นกัน