จากกรณี พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข, น.ส.พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ, น.ส.ณัฎฐธิดา หรือ แหวน มีหวังปลา และ น.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ เป็นจำเลยที่ 1-6 ต่อศาลอาญา

โดยคำฟ้องระบุความผิดทำนองว่า จำเลยทั้งหมดจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง โดยชักชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมผ่านสื่อออนไลน์ โดยมีการปราศรัย ให้ร่วมกันต่อสู้เปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญประเทศและปฏิรูปสถาบันเบื้องสูง บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 แขวงอนุสาวรีย์ชัย เขตบางเขน กทม.โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อเจ้าพนักงาน มีการปิดกั้นการจราจร รื้อรั้วลวดหนามเจ้าหน้าที่ และขีดเขียนข้อความลงบนพื้น มีเจตนาบิดเบือนใส่ร้ายพระมหากษัตริย์และบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นทางสาธารณะและทรัพย์สินต่างๆ ของราชการ อาณาจักร เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลประทับรับฟ้องแล้วสอบคำให้การจำเลยที่ 3-6 ให้การปฏิเสธ ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 7 ก.พ.65 เวลา 09.00 น. ขณะเดียวกัน ฝ่ายทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งหมดต่อศาล ภายหลังศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยทั้งสี่ โดยตีราคาประกันดังนี้ นายสมยศ 2 แสนบาท, น.ส.พิมสิริ น.ส.ณัฎฐธิดา คนละ 1 เเสนบาท ส่วน น.ส.อินทิรา 35,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำกิจกรรมอันเป็นการเสื่อมเสียต่อสถาบัน และห้ามออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล

ด้านนายสมยศ เปิดเผยว่า ขอขอบคุณศาลที่วันนี้ให้สิทธิพวกเราได้ประกันตัวเพื่อที่จะได้ต่อสู้คดีพิสูจน์เจตนารมณ์ของกลุ่มราษฎรเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของบ้านเมือง และต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ก้าวหน้าและเป็นการประกันว่าพวกเราจะมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ตนยังเป็นห่วงหลายคนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ ก็หวังว่าพวกเขาจะได้รับสิทธิในการประกันตัวโดยเร็วที่สุด.