ในช่วงสิ้นปีแต่ละปี ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ มักจะมองหาตัวช่วยเข้ามาลดหย่อนภาษี โดยการลดหย่อนภาษี หมายถึง ผู้ที่มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายตามรายการที่กฎหมายกำหนดแล้ว จะมีเงินได้สุทธิซึ่งจะนำไปคำนวณเพื่อเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดไว้ ข้อดีของการลดหย่อนภาษี คือ ทำให้เสียภาษีได้น้อยลง และมีเงินภาษีคืนกลับมามากขึ้น เพื่อนำไปใช้จ่ายประโยชน์อย่างอื่นต่อได้
สำหรับรายการลดหย่อนภาษี แบ่งเป็นตามกลุ่ม มีรายละเอียดดังนี้
– ลดหย่อนภาษีกลุ่มส่วนตัวและครอบครัว
1.ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
2.ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000 บาท
3.ค่าลดหย่อนบุตร 30,000 บาท
4.ค่าลดหย่อนบุตรคนที่ 2 (เกิดปี 61 เป็นต้นไป) คนละ 60,000 บาท
5.ค่าฝากครรภ์และคลอดบุตร ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 60,000 บาท
6.ค่าอุปการะเลี้ยงดูพ่อ-แม่ (ของตัวเองและคู่สมรส) คนละ 30,000 บาท สูงสุด 4 คนรวม 120,000 บาท
7.ค่าอุปการะผู้พิการ หรือผู้ทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท
– ลดหย่อนภาษีกลุ่มประกัน
1.ประกันสังคม ลดหย่อนตามที่จ่ายจริง
2.ประกันชีวิตทั่วไป / เงินฝากที่มีประกันชีวิต ลดหย่อนตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท
3.ประกันสุขภาพตัวเอง ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท (รวมกับประกันชีวิตฯแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท)
4.ประกันสุขภาพ พ่อ-แม่ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท
– ลดหย่อนภาษีกลุ่มการลงทุนเพื่อการเกษียณ
1.เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
2.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
3.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
4.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ / กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ / กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน ลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
5. กองทุนการออมแห่งชาติ ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 13,200 บาท
(เงินลงทุนเพื่อการเกษียณ รวมทั้งหมดแล้วต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
– ลดหย่อนภาษีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
1.นำดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย มาหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 100,000 บาท
– ลดหย่อนภาษีกลุ่มเงินบริจาค
1.เงินบริจาคทั่วไป / สนับสนุนการศึกษา / สถานพยาบาลของรัฐ / สนับสนุนการกีฬา / เพื่อการพัฒนาสังคม / มูลนิธิ และองค์กรสาธารณกุศล ลดหย่อนได้ตามที่บริจาคจริง ต้องไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนอื่นแล้ว
2.เงินบริจาคให้พรรคการเมือง ลดหย่อนได้ตามที่บริจาคจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
– ลดหย่อนภาษีกลุ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
1.ค่าธรรมเนียมจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต ใช้หักค่าลดหย่อนเพิ่มได้ 1 เท่าของที่จ่ายตามจริง (ธุรกิจที่มีเครื่องรูดบัตร EDC เฉพาะการรับชำระเงิน ค่าเช่า, ค่าวิชาชีพอิสระ, ค่ารับเหมาทั้งค่าแรงและค่าของ หรือเงินได้การประกอบธุรกิจอื่นๆ)
ทั้งนี้ อาจยังต้องรอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ผ่านการใช้เครื่องมือลดหย่อนภาษี เช่น มาตรการช้อปดีมีคืน ซึ่งภาคเอกชนได้เสนอรัฐบาลให้มีในช่วงก่อนสิ้นปี 64 เพื่อหวังให้มากระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากเริ่มเปิดประเทศและโควิดเริ่มคลี่คลาย