สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประกาศชื่อภาษากรีกว่า “โอไมครอน” ให้กับเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “บี1.1.529” โดยนับเป็น “สายพันธุ์น่าวิตกกังวล” ตัวที่ 5 ต่อจาก อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา
ทำเนียบขาวประกาศการระงับเที่ยวบินพาณิชย์ขาเข้าจากแอฟริกาใต้ บอตสวานา ซิมบับเว นามิเบีย เลโซโท อีสวาตินี โมซัมบิก และมาลาวี โดยมาตรการจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 29 พ.ย.นี้ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า สหรัฐมีความวิตกกังวลต่อเชื้อโอไมครอน ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดรวดเร็วมาก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีมาตรการป้องกันไว้ก่อน
"I've decided that we're going to be cautious," Biden said on the new omicron Covid variant first identified in South Africa https://t.co/0doAd4gUkO pic.twitter.com/lEmAdWwG9y
— Bloomberg Quicktake (@Quicktake) November 26, 2021
ขณะที่แคนาดาประกาศระงับการเข้าประเทศของพลเมืองต่างชาติจากแอฟริกาใต้ นามิเบีย เลโซโท บอตสวานา อีสวาตินี ซิมบับเว และโมซัมบิก ด้านสหราชอาณาจักร รัสเซีย และสหภาพยุโรป (อียู) ตลอดจนอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ประกาศมาตรการแบบเดียวกัน
The discovery of a new coronavirus variant named Omicron triggered global alarm as countries rushed to suspend travel from southern Africa and stock markets on both sides of the Atlantic suffered their biggest falls in more than a year https://t.co/v3iRcqibCL pic.twitter.com/MVPx9OiDaH
— Reuters (@Reuters) November 27, 2021
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของแอฟริกาใต้ออกแถลงการณ์ วิจารณ์มาตรการควบคุมพรมแดนของนานาประเทศ “ไม่เป็นธรรม” และไม่สอดคล้องกับแนวทางของดับเบิลยูเอชโอ ซึ่งยังคงเน้นย้ำว่า ต้องการเวลาศึกษาเชื้อไวรัสโอไมครอนอีกระยะหนึ่ง เกี่ยวกับ “ขอบเขตอันตราย” ที่รวมถึงรูปแบบของการติดเชื้อ การก่อโรค และการต้านทานต่อวัคซีน โดยก่อนหน้านั้น หลายฝ่ายมีความกังวลอย่างหนักต่อเชื้อเบตา ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ แต่จนถึงตอนนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อยังคงอยู่ในวงจำกัด.
เครดิตภาพ : AP