เมื่อวันที่ 27 พ.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในห้วงวันที่ 23-27 พ.ย. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉบับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง รวม 28 อำเภอ 82 ตำบล 368 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,030 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณคลี่คลายแล้ว 3 จังหวัดได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง และเพชรบุรี ยังคงมีสถานการณ์ใน 3 จังหวัด 15 อำเภอ 39 ตำบล 132 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,282 ครัวเรือน ดังนี้ 

1. ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หลังสวน รวม 7 ตำบล 44 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผกระทบ 843 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

2. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.พระแสง อ.เวียงสระ อ.เคียนซา อ.ท่าชนะ อ.ไชยา และ อ.ดอนสัก รวม 19 ตำบล 63 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 914 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

3. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ขนอม อ.ฉวาง อ.ทุ่งสง อ.พรหมคีรี อ.ทุ่งใหญ่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.นาบอน รวม 13 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 525 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลดง

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย.-26 พ.ย. 64 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐมรวม 15 อำเภอ 133 ตำบล 884 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,475 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่องแต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้

1. อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุบลราชธานี และ อ.วารินชำราบ รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 573 ครัวเรือน 

2. สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สองพี่น้อง และ อ.บางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน 

3. พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล และ อ.ลาดบัวหลวง รวม 34 ตำบล 198 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,120 ครัวเรือน 

4.ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปทุมธานี และ อ.สามโคก รวม 21 ตำบล 61 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,301 ครัวเรือน 

5.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน อ.กำแพงแสน และ อ.ดอนตูม รวม 46 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,428 ครัวเรือน 

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน ปภ. ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง.