มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเภททัวริ่งคาร์เมื่อต้นทศวรรษที่ 60 ก่อนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในประเภทออฟโรดที่ต้องอาศัยความท้าทายและโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีระบบการขับเคลื่อนบนเส้นทางทุรกันดารจนนำไปสู่การเข้าร่วมแข่งขันแรลลี่ ที่สุดทรหดในช่วงทศวรรษปี 70

ในช่วงทศวรรษที่ 80 แรลลี่อาร์ตได้ถูกก่อตั้งขึ้นมา และสามารถสร้างชื่อเสียงในระดับโลกมากมายให้แก่มิตซูบิชิด้วยการครองตำแหน่งเจ้าแห่งแรลลี่ทะเลทรายสุดหฤโหดอย่าง ดาการ์ แรลลี่ และคว้าตำแหน่งแชมป์โลกแรลลี่แชมเปี้ยนชิพในอีกหลายสนาม

ในที่สุดแรลลี่อาร์ตจึงกลายเป็นฝ่ายพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงเพื่อใช้ในการแข่งขันของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมยานยนต์สมรรถนะสูงและชิ้นส่วนต่าง ๆ ไปด้วยกันกับการเตรียมพร้อมในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต

อย่างไรก็ตาม แรลลี่อาร์ตได้ตระหนักถึงความต้องการในธุรกิจรถยนต์ที่มีการเปลี่ยน แปลง ลูกค้าเริ่มแสวงหาความน่าตื่นเต้นจากรถยนต์ธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์เพื่อการเพิ่มสมรรถนะ แต่ลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์การดีไซน์ที่โดดเด่นสัมผัสได้ถึงความสปอร์ต ปราดเปรียวและจิตวิญญาณแห่งชัยชนะในแบบเดียวกับรถแข่งระดับตำนาน

แรลลี่อาร์ตจึงพัฒนารถยนต์พร้อมติดตั้งชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อมอบความน่าตื่นเต้นและความเร้าใจให้แก่รถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส โดยรถยนต์รุ่นพิเศษคือจุดเชื่อมต่อทางประวัติ ศาสตร์ที่มุ่งสู่ตำนานแห่งชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วนที่สามารถสื่อสารและส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการพร้อมครองใจลูกค้าคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน

Pajero sport

จากตำนานสู่ปัจจุบันมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงได้ส่งรถยนต์ 3 รุ่น ที่มีดีเอ็นเอของความสปอร์ตออกมาให้แฟนพันธุ์แท้ของค่ายได้จับจองเป็นเจ้าของ ดีไซน์โดยแรลลี่อาร์ต เริ่มจากรถอเนกประสงค์ “ปาเจโร สปอร์ต” ที่ต่อยอดจากรุ่นจีที-พลัส 8เอที ขับเคลื่อนสองล้อ ออกแบบตกแต่งได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งแรลลี่สมรรถนะทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ไมเวค วีจี เทอร์โบ 2.5 ลิตร 181แรงม้า กับแรงบิด 430 นิวตัน-เมตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมแพดเดิลชิฟท์ ควบคุมทุกเส้นทางการท้าทาย มาพร้อมช่วงล่างแข็งแกร่ง ยึดเกาะถนน นอกจากนี้ยังกระจายกำลังได้อย่างเหมาะสม

นอกจากดีไซน์ด้วยสีดำ-แดง ทั้งกระจังหน้าไฟหน้าพร้อมแถบตกแต่งสีดำ ล้ออัลลอยหลังคา ราวหลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลามสปอยเลอร์ ส่วนไฮไลต์ตกแต่งของแรลลี่อาร์ตนั้นประกอบด้วยชุดตกแต่งกันชนหน้า-หลัง บังโคลนซุ้มล้อ พรมปูพื้น แผ่นกันโคลนสติกเกอร์ด้านข้างโลโก้แรลลี่อาร์ต

Triton double cab

ต่อมาเป็นกระบะ “ไทรทัน ดับเบิลแค็บ” และ “ไทรทัน เมกะแค็บ” นั้นได้ต่อยอดจากรุ่นจีแอลเอ็กซ์ 5เอ็มที ขับเคลื่อนสองล้อเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 128 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ได้รับการดีไซน์กลายเป็นรถกระบะหน้าตาหล่อเหลาดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยชุดแต่งแรลลี่อาร์ตที่บริเวณใต้กันชนหน้าแผ่นกันโคลน สติกเกอร์ด้านข้าง พรมปูพื้น

ด้านรูปลักษณ์ภายนอกดีไซน์ใหม่คุมโทนสีดำตั้งแต่กระจังหน้า หลังคา ล้ออัลลอย เสาอากาศแบบครีบฉลาม สปอยเลอร์ กระจกมองข้างมือเปิดประตูด้านนอก มือเปิดกระบะท้าย ล้วนแต่งเป็นสีดำทั้งสิ้น ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น

Triron Mega Cab

มิตซูบิชิทั้ง 3 รุ่นที่ได้พัฒนาและตกแต่งให้ดูสปอร์ตจากแรลลี่อาร์ตครั้งนี้มาพร้อมราคาที่จะปรับขึ้นเฉลี่ย 4-5 หมื่นบาท เตรียมส่งมอบความน่าตื่นเต้นและความเร้าใจครั้งใหม่ด้วยยานยนต์คุณภาพพร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อส่งต่อให้แฟนพันธุ์แท้มิตซูบิชิ พบตัวเป็น ๆ ได้ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 2-12 ธ.ค. นี้ ที่ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี.