ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอานนท์ กรณีย์ หรือลุงนนท์ อายุ 63 ปี ชาว ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง ยึดอาชีพขับรถตุ๊กๆหัวกบรับ-ส่งผู้โดยสารสาย ม.อ ตรัง-ควนธานี มานานกว่า 30 ปีแล้ว แต่เมื่อเจอกับพิษโควิด-19 ระบาด ทำให้โรงเรียนต่าง ๆ พากันปิดภาคเรียน ไม่มีนักเรียนขึ้นรถและชาวบ้านทั่วไปก็ไม่เดินทางออกจากบ้านไปจ่ายตลาดหรือไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เหมือนเคย ทำให้รายได้กลายเป็นศูนย์

ลุงนนท์จึงใช้เวลาว่างทั้งหมด ทุ่มเทไปกับการเพาะเลี้ยงต้นไม้ทั้งบอนสี ไม้ฟอกอากาศและไม้มงคลต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 20 ชนิด จนเกิดเป็นไอเดียในการดัดแปลงรถตุ๊กๆคู่ใจให้กลายมาเป็นรถขายต้นไม้เคลื่อนที่ ขับรถตระเวนขายไปตามหน้าห้างสรรพสินค้า และหน้าตลาดห้องเย็นควนปริง อ.เมืองตรัง เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว

สำหรับต้นไม้ที่ลุงนนท์นำมาขายเป็นต้นไม้ที่เพาะเองกับมือทุกต้น เน้นขายราคาต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อให้ประชาชนสามารถจับต้องได้ในยุคโควิดแบบนี้ โดยเริ่มต้นที่ราคาต้นละ 50 บาทไปจนถึง 500 บาท ทำให้ลูกค้าสนใจแวะเวียนกันมาอุดหนุน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500-1,200 บาทต่อวัน หรือไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งต้นไม้ที่ขายดีที่สุดยังอยู่ในจำพวกตระกูลบอนสี ไม้ด่าง และไม้มงคล โดยขับรถตระเวนขายมา 3-4 เดือนแล้ว ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้แล้ว ยังเป็นการคลายเครียดจากภาวะเศรษฐกิจและได้พบปะกับกลุ่มคนที่รักต้นไม้ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ทำให้กลายเป็นคนสู้ชีวิตและมองโลกในแง่ดีขึ้น

นายอานนท์ กล่าวว่า ตนขับรถตุ๊กๆส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรีทุกคน แต่มาในช่วงโควิดนี้ทำให้โรงเรียนปิดเรียน ไม่มีรายได้ แต่ด้วยความที่ชอบปลูกต้นไม้มา 6-7 ปีแล้ว จึงนำต้นไม้ออกมาขายกว่า 20 ชนิด ตั้งแต่ต้นละ 50-500 บาท เป็นราคาบ้าน ๆ มีทั้งไม้มงคลและไม้ฟอกอากาศ สร้างรายได้วันละ 500-1,200 บาท และเคยขายได้สูงสุดถึงวันละกว่า 2,000 บาทมาแล้ว.