นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีพบเชื้อโควิดกลายพันธุ์ จะกระทบกับการเปิดประเทศหรือไม่ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลระมัดระวังเรื่องการเปิดประเทศอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเปิดให้ทั้ง 63 ประเทศเข้ามาในประเทศไทย โดยกลุ่มประเทศทั้งหมดนั้นเดิมเมื่อเข้ามาในประเทศไทยก็ต้องมีการการตรวจอย่างละเอียด และจากข้อมูลก็พบว่าขณะนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร โดยข้อมูลเรื่องของไวรัสกลายพันธุ์นั้น คงต้องขอให้สาธารณสุขเป็นผู้ตอบ ซึ่งเชื่อว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้คงจะรู้ข้อมูลมากขึ้นว่าเป็นอย่างไร แต่ส่วนตัวมองว่า การใช้วัคซีนก็ยังน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการป้องกันความรุนแรงของโรคได้
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีพอใจภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศ กระแสของคนไทยที่เที่ยวในประเทศก็มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยความคืบหน้าโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 มีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 962,968 คน ผู้ประกอบการ 8,920 คน ยอดการจองโรงแรมที่พักสะสม 1.5 ล้านห้อง มูลค่าสะสมรวมทั้งสิ้น 5,996 ล้านบาท
ส่วนของโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐบาลจะสนับสนุนค่าแพ็คเกจท่องเที่ยว 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อสิทธิ จำนวน 1 ล้านสิทธิ ล่าสุดมีบริษัททัวร์สมัครลงทะเบียนเพิ่มขึ้นจำนวนกว่า 759 คน และบริษัทนำเที่ยวที่เปิดถุงเงินแล้วจำนวน 1,816 คน ยอดรวมมูลค่าการเดินทางและค่าใช้จ่ายการสะสม 18.4 ล้านบาท
“นายกรัฐมนตรีดีใจที่เห็นประชาชนคนไทยปรับตัวใช้ชีวิตแบบ New Normal ออกมาจับจ่ายใช้สอย และเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น โดยเฉพาะปลายปีที่เข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่ประกอบกับปีนี้อากาศหนาวมาเร็ว หลายคนหันไปท่องเที่ยวธรรมชาติ กางเต็นท์ เดินป่าเพื่อสัมผัสอากาศหนาวกันมากขึ้น ฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนในการเดินทางใช้รถ ใช้ถนน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย และขอให้ทุกคนดูแลสุขภาพ ป้องกันตัวเอง และระวังตัวไรอ่อนที่อาศัยอยู่ในป่ากัด อาจติดเชื้อและป่วยเป็นโรคไข้รากสาดใหญ่ได้ อยากเห็นทุกคนเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข”
