บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 30 พ.ย. 64 ผันผวนในแดนบวกและลบ จากความน่ากลัวของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายประเทศทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายทำกำไรหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มธนาคาร พลังงาน ท่องเที่ยว ที่ลดลงต่อเนื่อง บวกกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลงไป 3% ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,568.69 จุด ลดลง 21 จุด หรือ 1.32% ด้วยมูลค่า 159,490.87 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 551.40 จุด ลดลง 6.25 จุด หรือ 1.12% ด้วยมูลค่า 5,808.21 ล้านบาท

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้ กล่าวว่า การระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนในรอบนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ไม่ดีนัก คาดว่าช่วงแรกกลุ่มหุ้นที่จะโดนผลกระทบทันทีได้แก่กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางสัญจรระหว่างประเทศ เช่น โรงแรม สายการบิน และสนามบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นบริษัทที่มีธุรกิจในยุโรปอาจโดนกระทบมากหน่อย เนื่องจากบางประเทศในแถบนั้นเริ่มระงับการเดินทางเข้ามาของคนที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้ว ไม่นับรวมกับการระบาดที่เพิ่มขึ้นของประเทศในยุโรปกันเองอีกด้วย จุงแนะนำให้หลีกเสี่ยงลงทุนหุ้นกลุ่มดังกล่าว

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง -4.50 บาท

2.เอโอที ปิดที่ 59.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

3.อีเอ ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

4.ปูนซีเมนต์ ปิดที่ 372.00 บาท ลดลง -9.00 บาท 

5.ธ.กรุงเทพ ปิดที่ 113.00 บาท ลดลง -4.00 บาท