เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อารมณ์ดีเดินทักทายรัฐมนตรีทั่วห้องเหมือนเช่นทุกครั้ง ซึ่งในช่วงพักเบรกการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้เข้าห้องพักรับรองตามปกติ โดยไม่มีรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย

ในช่วงหนึ่งกระทรวงการคลังได้รายงานเรื่องการประมูลงานต่างๆของกระทรวงโดยใช้ระบบประมูลราคาแข่งขันผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (อีอ็อกชั่น) ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายเหลือเงิน 7 หมื่นล้านบาทมาคืนเข้ารัฐ โดยนายกฯ กล่าวว่า อยากให้ทุกกระทรวงดูเป็นตัวอย่าง และนำเรื่องดังกล่าวไปพูดขยายความไม่ใช่พูดแต่เรื่องลบอย่างเดียว

นอกจากนี้ในช่วงวาระสภาผู้แทนราษฎร นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานเรื่องกฎหมายสำคัญของรัฐบาลที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาว่ากฎหมายสำคัญที่รัฐบาลเสนอไปและค้างอยู่ในสภาฯ ก่อนหน้านี้ สภาฯได้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาหมดแล้ว ตอนนี้ไม่มีกฎหมายที่รัฐบาลเสนอแล้ว

ขณะเดียวกันในช่วงวาระสถานการณ์โควิด พล.อ.ประยุทธ์ เป็นห่วงเรื่องคนเข้าประเทศโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ขอให้ดูแลปฏิบัติกันอย่างเข้มงวด คนเข้าประเทศทั้งทางบก เรือและอากาศให้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขและต้องกักตัว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายการประชุมครม.เสร็จสิ้น รัฐมนตรีทุกคนลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้อง ปรากฏว่านายกฯ ลุกขึ้นยืนพร้อมกล่าวกับ ครม.และรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลว่า เรื่องการนัดกินเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการเลื่อนจัดงานไปก่อน ในช่วงนี้มีการระบาดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่รุนแรง ไม่ควรมีการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมสังสรรค์ เราต้องทำให้เป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้นำมาเป็นข้อครหารัฐบาลได้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่าวันที่ 1 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.อุดรธานี เพื่อติดตามแผนเปิดเมืองซึ่งเป็นที่น่าสังเกตทีมงาน พล.อ.ประวิตร แจ้งผู้สื่อข่าวล่วงหน้าว่า พล.อ.ประวิตร เตรียมลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ร่วมคณะกับนายกฯซึ่งถือเป็นการลงพื้นที่ร่วมกันครั้งแรกท่ามกลางกระแสข่าวรอยร้าวระหว่าง 2 ป.

โดยก่อนนี้ พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าสาเหตุที่ไม่ได้ลงพื้นที่ต่างจังหวัดร่วมกับนายกฯเนื่องจากเดินไม่ทันจึงไม่ลงพื้นที่ด้วย อย่างไรก็ตามการลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ของนายกฯครั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้ร่วมคณะลงพื้นที่ไปด้วยเนื่องจากติดภารกิจ.