เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่กระทรวงสาธาณรสุข นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ หลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครั้งที่ 3 ว่า ที่ประชุมมีวาระการพิจารณาสำคัญ 2 วาระ 1. เห็นชอบกรอบจัดหาวัคซีนสำหรับคนไทย ปี 65 จำนวน 120 ล้านโด๊ส การจัดหาทั้ง mRNA, ไวรัลเวกเตอร์ และโปรตีนซับยูนิต และรูปแบบอื่นๆ ที่เหมาะสมกับการระบาด และจำนวนซัพพลายของวัคซีน และให้คำนึงถึงวัคซีนที่ตอบสนองต่อการกลายพันธุ์ในอนาคต เพื่อเป้าหมายฉีดให้เพียงพอต่อผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีน และการฉีดกระตุ้นภูมิฯ ในระยะถัดไป รวมถึงใช้สำหรับการระบาดด้วย นอกจากนี้ยังมีมติให้กรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนฯ เร่งจัดหาของปี 64 ให้ได้ตามเป้าปี 64 จำนวน 100 ล้านโด๊ส

2. การพิจารณาร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้มาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ 2651 ในการกำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนนอกราชอาณาจักร เป็นการชั่วคราว

เมื่อถามถึงสัดส่วนที่จะอนุญาตให้ส่งออกได้ นพ.นคร กล่าวว่า เรื่องทั้งนี้มติเป็นการเห็นชอบในหลักการเท่านั้น ส่วนเนื้อหานั้นให้ฝ่ายเลขาฯ ไปทบทวนผลกระทบด้านต่างๆ อย่างรอบคอบ ระหว่างนี้ให้เจรจากับผู้ผลิตเพื่อให้ดำเนินการเรื่องการส่งมอบต่อไป

เมื่อถามถึงกำลังการผลิตวัคซีนแอสตราฯ ในไทย และสัดส่วนการใช้ในประเทศ ในปัจจุบัน นพ.นคร กล่าวว่า ทั้งนี้ปัจจุบัน 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตในถูกใช้ในประเทศ ส่วน 2 ใน 3 ของกำลังการผลิตนั้นเป็นการส่งออก.