บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 2 ธ.ค.64 ดัชนีผันผวนในแดนบวกและลบ เนื่องจากไม่มีปัจจัยใหม่มาช่วยกระตุ้น ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ล่าสุด สหรัฐประกาศพบผู้ติดเชื้อรายแรกแล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลกรายงานพบผู้ติดเชื้อใน 23 ประเทศทั่วโลก แต่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นมา 1% นั้น ได้เข้ามาช่วยผยุงหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัว ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,591.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด หรือ 0.06% ด้วยมูลค่า 67,069.51 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 559.74 จุด ลดลง 1.32 จุด หรือ 0.24% ด้วยมูลค่า 6,525.49 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล. ทิสโก้ กล่าวว่า ในเดือนนี้มีประเด็นที่น่าจับตาคือ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอนที่จะกระทบต่อตลาดหุ้นไทย โดยอิงจากการระบาด 2 รอบล่าสุดในปีนี้ คือ เม.ย.-พ.ค.64 และเดือน ก.ค.-ส.ค.64 ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงจากจุดสูงสุดประมาณ 60 จุด และ 120 จุด ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานในแง่ของค่าเฉลี่ยอัตราราคาต่อกำไรล่วงหน้า ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และปัจจัยเทคนิค จึงประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยเหมาะแก่การทยอยสะสมอยู่ 2 ระดับ คือ บริเวณ 1,590-1,600 จุด และ 1,500-1,530 จุด โดยในช่วงนี้แนะนำให้ปรับพอร์ตตั้งรับ รวมถึงถือเงินสดในพอร์ตเพิ่มขึ้น

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่

1.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 134.00 บาท ลดลง -1.00 บาท

2.ธ.ไทยพาณิชย์ ปิดที่ 124.00 บาท ลดลง -2.00 บาท

3.ปตท. ปิดที่ 37.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

4.แอดวานซ์ ปิดที่ 212.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท 

5.เอโอที ปิดที่ 59.50 บาท ลดลง -0.50 บาท