เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่กระทรวงแรงงาน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน พร้อมด้วย นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน น.ส.สุนทราลักษณ์ เพ็ชรกูล ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และผู้แทนกลุ่มคนกลางคืน นำโดย นายธเนส สุขวัฒน์ ตัวแทนนักดนตรี ผู้จัดงานคอนเสิร์ต นายวรพจน์ นิ่มวิจิตร ตัวแทนผู้จัดงานคอนเสิร์ต อีเวนต์ จากสมาพันธ์เครือข่ายคนบันเทิงอาชีพแห่งประเทศไทย ได้มีการหารือถึงมาตรการเยียวยานักร้อง นักดนตรี นักแสดง และผู้ประกอบการสถานบันเทิง คลับ ผับ บาร์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19   

นายสุชาติ แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้ข้อสรุปว่าการเยียวยาแบ่งเสนอคณะกลั่นกรองเงินกู้กระทรวงการคลัง ผ่านทางสภาพัฒน์ เร็วๆ นี้ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเบื้องต้นจากการที่สมาคมฯ เก็บตัวเลขประมาณ 1.5 แสนคน โดยแบ่งการเยียวยาเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 นายจ้างให้ลงทะเบียนโครงการ SME (โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงาน) ที่จะได้รับเงิน 3,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน เพื่อช่วยเหลือนายจ้างระยะเวลา 3 เดือน โดยไม่มีภาษี กลุ่มที่ 2 ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม จะให้ประกันสังคมเยียวยาว่างงานจากเหตุสุดวิสัยจ่าย 50% ของ 1.5 หมื่นบาท สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท และเด้งที่สองที่จะได้รับอีก 5,000 บาท จากรัฐบาล (ม33เรารักกัน) ซึ่งต้องเข้า ครม.ก่อน ซึ่งหากได้รับการเยียวยา 2 ขานี้จะเท่ากับได้รับเงินเยียวยารวม 12,500 บาท

กลุ่มที่ 3 คือศิลปินอิสระที่ไม่มีเงินเดือน ไม่มีฐานข้อมูลในระบบประกันสังคม ก็ให้ลงทะเบียนเข้ามาตรา 40 ผ่านสมาคมคนบันเทิง สมาคมนักดนตรี สมาคมร้านอาหารที่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ ให้รับรองข้อมูลมาเพื่อเข้าสู่ระบบ โดยตนจะนำเข้าเสนอกระทรวงการคลังอีกครั้งเพื่อรับการเยียวยาอัตรา 5,000 บาท เหมือนกับมาตรา 33 แต่จะได้รับเพียงขานี้ขาเดียว อย่างไรก็ตาม กรณีคนที่มีอายุเกิน 65 ปี ซึ่งอาจจะมีไม่เข้าข่ายมาตรา 40 ของประกันสังคม จะประสานให้กระทรวงวัฒนธรรม สำรวจตัวเลขและเป็นผู้ดูแลเยียวยาต่อไป เหมือนกับกรณีคนขับรถแท็กซี่ที่อายุเกิน 65 ปี ไม่เข้าข่ายมาตรา 40 เราก็ประสานกระทรวงคมนาคมเยียวยา ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถจ่ายเยียวยาได้ในเดือน ธ.ค.นี้ 

“ข้อสรุปเบื้องต้นคือราดูแลทุกกลุ่มไม่ให้หลุดไปไหน แต่ได้มากได้น้อยต่างกัน แต่ทั้งหมดเป็นเงินกู้ของรัฐบาล และในส่วนของการดูแลครั้งนี้เป็นเพียงการดูแลเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งตามกรอบที่จะอนุญาตให้กลับมาเปิดกิจการได้ประมาณวันที่ 16 ม.ค. 2565 นั้น แต่จากการคุยกับท่านนายกรัฐมนตรี หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายไม่สามารถเปิดกิจการได้ ก็จะมีการนำเสนอเพื่อพิจารณาขยายต่อการเยียวยาให้อีก 1 เดือน แต่ที่สมาคมพูดมามีเหตุผลฟังได้เช่น งานแต่ง งานบวช ในโรงแรมต่างๆ ที่จัดได้ไม่เกิน 1-2 ชม. ก็จะเสนอ ศบค.พิจารณาประเด็นนี้ด้วยเพราะถึงไม่มีดนตรีแต่แขกก็มางานอยู่แล้ว” นายสุชาติ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุมให้ความสำคัญกับจำนวนตัวเลขและรายชื่อของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่แท้จริง โดยให้เหตุผลว่าการที่ตั้งตัวเลขไว้สูงเกิน จะเป็นภาระกับการจัดสรรงบประมาณเกินจริง ที่หากไม่สามารถเบิกจ่ายทั้งหมดได้ ก็จะส่งผลกระทบโครงการอื่นๆ ที่จะเสียโอกาสด้วย

ด้านนายธเนส กล่าวขอบคุณรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานเช็คจำนวนและรายชื่อในแต่ละสมาคม สมาพันธ์ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ที่จะได้มีการทยอยเข้ามา อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ประกอบการที่เป็นสถานบันเทิงก็พร้อมที่จะดูแลตัวเองในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจกับทุกภาคส่วน โดยไม่ได้หวังแต่การช่วยเหลือของรัฐบาล ทั้งนี้เราอยากให้สามารถเปิดดำเนินกิจการได้โดยเร็ว.