วานนี้ (3 ธ.ค.) รัฐบาลอังกฤษประกาศใช้กฎหมายใหม่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงประเภทแมวซึ่งระบุว่า แมวที่มีเจ้าของทุกตัวจะต้องติดไมโครชิพติดตามตัวภายในปี 2566 ผู้เป็นเจ้าของแมวที่ไม่ยอมทำตาม จะถือว่ามีความผิดทางอาญาและจะต้องโดนปรับเงิน โดยมีเพดานค่าปรับสูงสุดอยู่ที่ 500 ปอนด์ 

อังกฤษประเมินว่าในประเทศมีแมวอยู่ราว 10.8 ล้านตัว ซึ่งในจำนวนนี้ มีอยู่ 2.8 ล้านตัวที่ยังไม่มีการติดไมโครชิพ จึงทำให้ยากต่อการตามหาเจ้าของ เมื่อแมวพลัดหลงจากที่พักอาศัยหรือโดนขโมย

ตามสถิติของกรมตำรวจ คดีขโมยแมวที่มีเจ้าของในอังกฤษมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 12% เมื่อปีที่แล้ว แมวเลี้ยงที่มีราคาและมีใบรับรองสายพันธุ์จะเป็นเป้าหมายสำคัญของพวกหัวขโมย เพื่อนำไปขายต่อหรือนำไปเป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ โดยเฉพาะแมวที่หายากและราคาแพง เช่น พันธุ์เบงกอล, บริติช ช็อตแฮร์, เมนคูน 

กฎหมายฉบับใหม่จึงมีจุดประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือและป้องกันกรณีดังกล่าว เช่นเดียวกับการออกกฎหมายบังคับให้เจ้าของสุนัขต้องติดไมโครชิพให้สัตว์เลี้ยงทุกตัว ซึ่งบังคับใช้ไปก่อนหน้านี้แล้ว

สำหรับลูกแมว จะต้องติดไมโครชิพก่อนที่จะอายุครบ 20 สัปดาห์ เจ้าของแมวที่พบว่าไม่มีไมโครชิพติดตามตัว จะมีเวลา 21 วันเพื่อนำแมวไปฝังไมโครชิพ มิเช่นนั้นจะโดนปรับ โดยจำนวนค่าปรับสูงสุดอยู่ที่ 500 ปอนด์ หรือราว 22,500 บาท

ทางการอังกฤษกล่าวว่ากฎหมายนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาเจ้าของแมวส่วนใหญ่

ไมโครชิพสำหรับแมวมีขนาดเล็กมาก โดยเล็กเท่าเมล็ดข้าวเท่านั้น แต่ละชิ้นจะมีหมายเลขประจำที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งเมื่อใช้เครื่องสแกน ก็จะปรากฏข้อมูลประจำหมายเลขตามที่ลงทะเบียนไว้ อย่างไรก็ตาม เจ้าของแมวก็ควรหมั่นอัพเดทข้อมูลเรื่องที่อยู่ในฐานข้อมูล ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

กระบวนการฝังชิพลงใต้ผิวหนังทำได้ง่ายมากและจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้แมว โดยมีค่าใช้จ่ายรายละ 15-30 ปอนด์ (ราว 670-1,350 บาท) 

แหล่งข่าว

https://www.dailymail.co.uk/news/article-10273673/Microchip-cat-face-500-fine.html

https://www.gov.uk/government/news/cat-microchipping-to-be-made-mandatory

เครดิตภาพ : Getty Images