สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. เกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์ หลังภูเขาไฟเซเมรู หรือ มาฮาเมรู ในภาษาสันสกฤต ที่มีความหมายว่า “เจดีย์” ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีความสูงที่สุดบนเกาะชวา คือ 3,676 เมตร และตั้งอยู่ในเขตชุมชน ของจังหวัดชวาตะวันออก เกิดปะทุอย่างรุนแรง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกลุ่มควันและเถ้าถ่านลอยขึ้นปกคลุมท้องฟ้าเป็นวงกว้าง และหนาทึบไปทั่วบริเวณนั้น
สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (บีเอ็นพีบี) รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งนี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 14 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 56 คน ส่วนใหญ่มีบาดแผลไหม้ตามร่างกาย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 1,300 คน ต้องอพยพ แต่ยังมีผู้สูญหายตามรายชื่ออีกอย่างน้อย 9 คน ซึ่งทุกฝ่ายส่วนที่เกี่ยวข้องกระจายกำลังค้นหาอย่างสุดความสามารถ
อย่างไรก็ตาม การพยากรณ์โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ในกรุงจาการ์ตา ซึ่งคาดการณ์การเกิดพายุฝนฟ้าคะนองในช่วงต้นสัปดาห์ถึงกลางสัปดาห์นี้ จึงอาจส่งผลกระทบต่อความราบรื่นของภารกิจค้นหาและกู้ภัย นอกจากนี้ หินภูเขาไฟและตะกอนภูเขาไฟสร้างอุปสรรคให้กับการเคลื่อนย้ายของเจ้าหน้าที่ด้วย
ขณะเดียวกัน รายงานของบีเอ็นบีพีระบุถึงสาเหตุ การปะทุของภูเขาไฟเซเมรูในครั้งนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี คือต่อจากเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า เป็นผลจากพายุฝนฟ้าคะนองและฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดการกัดเซาะและเร่งปฏิกิริยาจนเกิดการปะทุในที่สุด
ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีภูเขาไฟประมาณ 130 ลูก ส่วนใหญ่เป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลัง และการที่อินโดนีเซียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่บนเขต “วงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก” ซึ่งเป็นการเรียงตัวของรอยต่อเปลือกโลกเป็นแนวคล้ายเกือกม้า จึงเผชิญกับสถานการณ์ภูเขาไฟปะทุและแผ่นดินไหวเป็นประจำ.
เครดิตภาพ : AP