ในช่วงปลายปีของทุกปีซึ่งเป็นช่วงของบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย แต่ในปี 64 ประเทศไทยยังถูกกดดันจากการระบาดของโควิด-19 แม้เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นในแง่ของเศรษฐกิจและธุรกิจ เนื่องจากรัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศ ทำให้ความเชื่อมั่นประชาชนเริ่มกลับมา ประกอบกับภาคธุรกิจเริ่มจัดแคมเปญโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่าย

สิ่งหนึ่งที่จะได้รับแรงกระตุ้นตามกันมาคือ ธุรกิจสินเชื่อ เพราะเมื่อคนต้องการจับจ่ายใช้สอย มักจะขอสินเชื่อเพื่อมาใช้จ่าย หรือลงทุน ขยายกิจการ และผลิตภัณฑ์ที่คนส่วนใหญ่ที่ประกอบอาชีพมักจะเลือกใช้คือ สินเชื่อเพื่อคนมีรถ ทำให้สินเชื่อประเภทนี้มีการจัดโปรโมชั่น เพื่อดึงดูดให้คนเข้ามาใช้สินเชื่อเพิ่มขึ้น แล้วรู้หรือไม่ว่า สินเชื่อเพื่อคนมีรถแตกต่างกันอย่างไร

สำหรับสินเชื่อเพื่อคนมีรถในรูปแบบต่างๆ ได้แก่

1.สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับผู้เป็นเจ้าของรถ

-ผู้ใช้สินเชื่อประเภทนี้ต้องทำการโอนเล่มทะเบียนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้บริการสินเชื่อ ตามแนวทางของสินเชื่อเช่าซื้อทั่วไป โดยมีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมดเท่ากันทุกงวด ตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจนถึงวันที่ผ่อนเสร็จ ดังนั้น หากมีการ “โปะ” หรือจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้นในบางเดือน จะไม่ได้มีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยใหม่ สินเชื่อแบบโอนเล่มจึงเหมาะกับคนที่มีรายได้ประจำแน่นอน และประเมินได้ว่าตนเองจะสามารถผ่อนค่างวดเท่าเดิมไปจนหมดสัญญา

2.สินเชื่อจำนำทะเบียน

-สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน เป็นสินเชื่อสำหรับเจ้าของรถที่ไม่ต้องการโอนเล่มทะเบียน มีการคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก หรือคิดอัตราดอกเบี้ยตามเงินต้นที่ค้างชำระอยู่ในแต่ละงวด เจ้าของรถจึงสามารถ “โปะ” ค่างวดเพิ่ม เพื่อลดเงินต้นและดอกเบี้ยได้ ผู้ที่มีรายได้ในแต่ละเดือนไม่แน่นอน ขึ้นลงตามสถานการณ์ หรืออาจจะมีรายได้ประจำที่แน่นอน แต่มีรายได้จากแหล่งอื่นเพิ่มเติมในแต่ละเดือน จึงน่าจะถูกใจกับการ “โปะ” เพื่อค่างวดที่ถูกลง และปิดสัญญาได้เร็วขึ้น

3.สินเชื่อจำนำทะเบียน พร้อมวงเงินพร้อมใช้

-สินเชื่อประเภทนี้มีวิธีการคิดดอกเบี้ยเหมือนสินเชื่อจำนำทะเบียนทั่วไป แต่จะมีวงเงินพร้อมใช้ซึ่งสามารถเบิกถอนได้เพิ่มเติมหลังจากเริ่มมีการผ่อนชำระไปแล้ว ซึ่งจะมีวงเงินคงเหลือให้สามารถเบิกถอนได้ ตามที่ผู้ให้บริการสินเชื่อกำหนด โดยไม่ต้องพิจารณาวงเงินใหม่ หรือดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับสัญญา

ในขณะที่อีก 2 ประเภทข้างต้น หากต้องการขอวงเงินเพิ่มเติม ผู้กู้ต้องปิดสัญญาเก่าแล้วเปิดสัญญาใหม่ ดังนั้น สินเชื่อแบบมีวงเงินสำรองนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการมีตัวช่วยด้านการเงินเมื่อชีวิตต้องเจอกับสถานการณ์ไม่คาดคิด โดยผู้ให้บริการสินเชื่อบางรายยังเปิดให้ลูกค้าเลือกได้ด้วยว่า จะรับเงินก้อนแรกเต็มวงเงินของราคาประเมินรถ หรือจะรับเพียงบางส่วนตามความจำเป็นของตนเอง

สินเชื่อรีไฟแนนซ์รถยังมีฟีเจอร์อีกหลากหลาย เช่น วงเงินกู้สูงสุด 100% ระยะเวลาการผ่อนนานสูงสุด 84 เดือน ไปจนถึงช่องทางดิจิทัลในการจ่ายค่างวดและเบิกถอนเงิน ดังนั้น เจ้าของรถจึงสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และความสามารถของตนเองได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เงินทุนก้อนนี้จะช่วยเราให้ได้ทำตามแผนของชีวิต ควบคู่ไปกับการมีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

(ที่มา : คาร์ ฟอร์ แคช กรุงศรีออโต้)