เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านในช่วงเย็นวันนี้ว่า ก่อนการจัดงานได้คำนึงถึงข้อกฎหมายและความเหมาะสมกับบรรยากาศในสถานการณ์ขณะนี้แล้ว มั่นใจหากมีการร้องเรียนเข้ามาก็สามารถชี้แจงได้ ไม่หนักใจ และหากจะอ้างว่าขัดจริยธรรม เนื่องจากมีคนเลี้ยงอาหาร ก็ต้องตรวจสอบดูว่าการไปรับประทานอาหารกับการรับสิ่งของสิ่งไหนคือการขัดจริยธรรม หากการรับประทานอาหารเป็นการขัดจริยธรรมก็แชร์กันจ่ายเงิน ก็ถือว่าไม่มีใครรับผลประโยชน์ซึ่งกันและกันแล้ว

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ขอฝากไปถึงนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า การยื่นเรื่องร้องเรียนต่างๆ ถือเป็นหน้าที่ของนายเรืองไกร แต่มีเรื่องที่เหมาะสมกว่านี้เยอะที่นายเรืองไกรสามารถยื่นตรวจสอบได้ เพราะนายเรืองไกรเป็นคนมีฝีมือถึงขั้นปลดอดีตนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ดังนั้นน่าจะใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองทำเรื่องที่เป็นประโยชน์มากกว่านี้

นายสุทิน กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนบุกจับชาวจะนะรักษ์ถิ่น ที่ปักหลักชุมนุมประท้วง เพื่อทวงถามเรื่องการยุติโครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตนั้น อยู่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ช่วงคืนวันที่ 6 ธ.ค.ว่า กรณีดังกล่าวไม่ขอตำหนิการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เพราะเชื่อว่าเป็นคำสั่งจากรัฐบาล แต่ขอตำหนิรัฐบาลที่ไม่เคารพเรื่องสิทธิมนุษยชน และเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้หลายกรณีแล้ว เช่นกรณีผู้หญิงชาวอุดรธานีที่ระบายความรู้สึกของตัวเองต่อนายกฯ ซึ่งถือเป็นสิทธิที่ประชาชนจะทำได้ เนื่องจากไม่ได้มีการทำร้าย และรัฐบาลต้องรับฟังข้อเรียกร้องของประชาชน

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า ส่วนการชุมนุมของกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่นก็ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นกัน เนื่องจากไม่มีอาวุธและไม่ได้ขัดขวางความสงบสุขของสังคม แต่การที่รัฐบาลสั่งการเช่นนี้จะยิ่งทำให้สถานการณ์บานปลาย และฝ่ายค้านคงอยู่เฉยไม่ได้ โดยสัปดาห์นี้จะขอพูดคุยกับรัฐบาลในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นยื่นกระทู้ถามสดหรือการยื่นเป็นญัตติในการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้.