จากกรณี เพจ เสถียรธรรมสถาน Sathira Dhammasathan แจ้งข่าวการคืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบของ “แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต” ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ภายหลังป่วยด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร กระทั่งวันที่ 3 ธ.ค. พบว่าก้อนมะเร็งได้ขยายขนาดและลุกลามอย่างมาก ผู้ดูแลจึงตัดสินใจพาท่านกลับมาพำนักที่เสถียรธรรมสถานตามปณิธานของท่านในวันที่ 6 ธ.ค. และคืนร่างกลับสู่ธรรมชาติในวันที่ 7 ธ.ค.

ชีวิตทางโลก..
สำหรับประวัติของท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต หรือนามเดิม ศันสนีย์ ปัญญศิริ มีชื่อเล่นว่า ตุ๊กตา เป็นชาว อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 31ตุลาคม พ.ศ. 2496 มีพี่สาวร่วมบิดามารดา 1 คน คือ สายสัมพันธ์ ปัญญศิริ หรือหลายคนเรียกว่าป้าตุ๋ม เป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือดูแลเสถียรธรรมสถานอยู่เนืองๆ

แต่ในวัย 15 ปี ท่านต้องเผชิญความสูญเสียมารดาอันเป็นที่รัก และชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเมื่อตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และถูกชักชวนให้เข้าประกวด 10 ยอดนางแบบระพี โรงเรียนสอนตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในยุคนั้น และได้รับรางวัล ก่อนจะก้าวขึ้นอีกระดับในการประกวดและได้รับตำแหน่ง “รองมิสออด๊าซ” กับรางวัล “นางงามบุคลิกภาพ”

แม่ชีศันสนีย์มีรักครั้งแรกและครั้งเดียวกับเสถียร เสถียรสุต เศรษฐีเจ้าของเพลินจิตอาเขต แต่กลับไม่สมหวัง จึงตัดสินใจหันเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ และเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ท่านได้ตัดสินใจยุติบทบาททางโลก เข้าสู่เส้นทางธรรม เป็นพุทธสาวิกาที่วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต โดยมี พระครูภาวนาพิธาน (เส็ง ยสินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดศิริพงษ์ธรรมนิมิตเป็นพระอุปัชฌาย์

แม่ชีศันสนีย์ เคยถ่ายทอดเรื่องราวความรักผ่าน Club Friday SHOW ตอนหนึ่งว่า “ชีวิตพลิกผัน ตอนอายุ 15 คุณแม่เสียชีวิตเหมือนโลกถล่ม เรามืดไปหมด คิดแต่ว่าเราต้องอยู่ต่อไปให้ได้ ต้องช่วยตัวเอง เลยเข้ากรุงเทพฯ เริ่มเข้ามาทำงานนางแบบ ยืนด้วยตัวเอง มาเป็นประชาสัมพันธ์ health club ได้เป็น มิสออด๊าซ เป็นจุดเริ่มต้นรักแรกและรักเดียว กับ คุณเสถียร เสถียรสุต ไม่เคยไปไหนด้วย เป็นแต่เพียงส่งข้อความ ส่งดอกไม้ โทรฯ คุย จนเริ่มผูกพัน อบอุ่น คบกัน ก็ถามเค้าว่ามีใครหรือยัง เค้าก็บอกว่า โตขนาดนี้แล้ว ตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง รู้สึกไม่มั่นคง ค่อยๆ ถอยห่าง ไม่ได้หนี แต่ปฏิเสธความไม่มั่นคง จนตัดสินใจไปต่างประเทศ ยุติความรัก ไปเรียนต่ออังกฤษ คาแรกเตอร์ชัดเจนของเรา คือ จะไม่ทำสิ่งไม่ถูกต้อง ตอนอายุ 24-25-26 พยายามหยุดสิ่งไม่ถูกต้อง พออายุ 27 ก็บวชเลย”

ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน
งานแรกในบทบาทพุทธสาวิกา ท่านได้รับมอบหมายจากพระครูภาวนาพิธาน (เส็ง ยสินฺธโร) ให้รับผิดชอบดูแลศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งเป็นศูนย์ที่หลวงพ่อตั้งขึ้น (ปัจจุบันคือศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต) หลังจาก 7 ปี ได้พบว่าธรรมะของพระพุทธองค์สามารถแก้ปัญหาความทุกข์ในชีวิตได้จริง ผนวกกับความกตัญญูซึ่งท่านมีต่อ พระครูภาวนาพิธาน พระอุปัชฌาย์ที่ชี้แนะไว้ก่อนล่วงลับว่า “ถ้ามีปัญญา สมบัติก็ไม่เป็นทุกข์”

เสถียรธรรมสถานจึงถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 จากงานเด็กในความรับผิดชอบจึงขยายสู่งานผู้หญิงด้วย โดยมุ่งเน้นในเรื่องการสร้างชีวิตให้แก่เด็กและผู้หญิงที่ประสบปัญหาชีวิต ผลักดันให้ผู้หญิงได้รับการพัฒนาสติปัญญาที่มีความรู้ทางธรรมเป็นรากฐาน รวมทั้งสามารถใช้ศักยภาพของตนเองในการช่วยเหลือผู้อื่น โดยเสถียรธรรมสถาน เป็นชื่อที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภะ) ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อภาวนาพิธานเป็นผู้ตั้งให้ ความหมายคือ “สถานที่ที่มีธรรมอันยั่งยืน”

ปี พ.ศ. 2534 แม่ชีศันสนีย์ได้เริ่มต้นงาน “บ้านสายสัมพันธ์” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เด็กและสตรีที่เคยถูกทารุณกรรมทางเพศและตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ ยืนหยัดด้วยพลังใจและพลังความเป็นแม่ของตัวเอง แต่จากประสบการณ์การทำงานที่ต่อเนื่องยาวนานในงานปลายเหตุ ทำให้ในปีปี พ.ศ. 2547 ท่านได้เริ่มทำงานต้นเหตุ คือ โครงการจิตประภัสสรตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ เพื่อส่งเสริมให้พ่อและแม่ได้ศึกษาและปฏิบัติตนตามหลักธรรมะเป็นแนวทางในการครองชีวิตครอบครัว และให้กำเนิดลูกที่มีจิตประภัสสร

นอกจากนี้ แม่ชีศันสนีย์ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวแทนนำเสียงผู้หญิงไปสู่เวทีโลก ในงานประชุมผู้นำสตรีทางศาสนาและจิตวิญญาณเพื่อสันติภาพโลก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี พ.ศ. 2545 ทำให้ “แม่ชีศันสนีย์” ได้เจอกับ “วิคตอเรีย โฮลท์” มืออาชีพด้านการเขียนบทและการสร้างภาพยนตร์ ที่ประทับใจในคำพูดที่แฝงแง่คิด และสนใจศึกษาเรื่องราวแม่ชีอย่างจริงจัง จนนำไปสู่การสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องอะ วอล์ก ออฟ วิสดอม (A Walk of Wisdom) ที่ฉายในหลายประเทศทั่วโลก

ปี พ.ศ. 2549 ท่านเดินทางไปยังเมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา ท่านได้รับมอบ “พระอารยตารามหาโพธิสัตว์” อายุกว่า 2,000 ปี ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์ที่ชาวพุทธวัชรยานให้ความนับถือ จาก ดร.ฮง เชม อดีตผู้อำนวยการกองบำรุงกำลัง องค์การสหประชาชาติ บุคคลผู้ที่แม้เพิ่งพบท่านแม่ชีเป็นครั้งแรก แต่ซาบซึ้งกับการทำงานของท่านแม่ชีในฐานะนักบวชหญิงที่เปิดเสถียรธรรมสถานให้เป็นบ้านที่ช่วยเหลือผู้หญิงซึ่งถูกกระทำความรุนแรง นาทีนั้น ดร.ฮง ได้กล่าวคำที่มีความหมายมากว่า “ตารา…กลับบ้าน”

อาการป่วย
ในปี 2560 แม่ชีศันสนีย์ได้มีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและเข้ารับการรักษา โดยมีอาการดีขึ้นในช่วงปีแรก และตรวจพบก้อนมะเร็งอีกครั้งในกลางปี 2563 และเข้ารับการรักษาโดยคณะแพทย์ต่อเนื่อง โดยเข้ารับการรักษาเพิ่มเติมด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy) ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

กระทั่งแพทย์ตรวจพบว่ามะเร็งได้เข้าสู่ระยะลุกลามจนเข้าสู่ระยะสุดท้ายเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ดูแลจึงตัดสินใจพาท่านกลับมาพำนักที่เสถียรธรรมสถานตามปณิธานของท่านในวันที่ 6 ธันวาคม และคืนสู่ธรรมชาติอย่างสงบในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2564 เวลา 18.23 น. สิริอายุ 68 ปี 1 เดือน 7 วัน และนับเป็น 41 พรรษาบนมรรคาแห่งการตื่น..