ตำรวจเมืองไวจาปูร์ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย แถลงข่าวการจับกุมวัยรุ่นรายหนึ่งด้วยข้อหาฆาตกรรมตัดศีรษะพี่สาวอายุ 19 ปีของตน พร้อมทั้งระบุว่าผู้เป็นแม่สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรม โดยเป็นผู้จับขาของเด็กสาวไว้ขณะที่ลูกชายก่อเหตุ

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 ธ.ค. 2564 ที่เมืองไวจาปูร์ซึ่งอยู่ทางอินเดียตะวันตก ทางการอินเดียปกปิดชื่อของเหยื่อฆาตกรรมและฆาตกรไว้ ไกลาช ปราจาปาตี เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของเมือง ไวจาปูร์ กล่าวว่า เด็กสาวผู้ตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมเพิ่งอายุได้ 19 ปี

เบื้องต้นทราบว่าเด็กสาวแต่งงานโดยขัดใจพ่อแม่เมื่อ 5 เดือนก่อน หลังจากที่จดทะเบียนสมรสแล้ว เธอก็ไปอยู่กับสามีและไม่เคยติดต่อกับครอบครัวเดิม จนกระทั่งวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แม่กับน้องชายก็มาหาเธอที่บ้านใหม่

เด็กสาวเชิญให้พวกเขาเข้าบ้านเพื่อดื่มชาและในจังหวะนั้นเองที่น้องชายของเธอคว้าเคียวมาฟันเธอ 4 ครั้งแล้วตัดศีรษะเธอ ผู้ก่อเหตุทั้งสองนำศีรษะของผู้ตายออกมาวางไว้นอกบ้านและทิ้งร่างของเธอไว้ในบ้าน

“คนเป็นแม่คือผู้ที่จับขาเธอไว้ในระหว่างการฆ่า จึงถือว่าเป็นผู้ร่วมกระทำผิดเช่นกัน” เขาเสริม

ขณะเกิดเหตุ สามีของผู้ตายนอนหลับอยู่ในบ้านเนื่องจากไม่สบาย และตื่นขึ้นเพราะได้ยินเสียงดัง

“ผู้ต้องหาทำร้ายเขาด้วย แต่เขาหนีรอดไปได้” นายตำรวจกล่าว

คนร้ายทั้งสองเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจในเวลาต่อมาและรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อฆาตกรรม ตำรวจตามไปที่บ้านและพบทั้งร่างและศีรษะของหญิงผู้เคราะห์ร้าย

ถ้ายึดอายุตามใบสูติบัตร ผู้ต้องหาชายยังถือว่าเป็นผู้เยาว์ จึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเยาวชน ส่วนผู้เป็นแม่ถูกควบคุมตัว ทั้งคู่ยังไม่ได้โดนแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ โดยต้องรอผลการสืบสวนเสียก่อน และตำรวจกำลังรอผลชันสูตรว่าผู้ตายกำลังตั้งครรภ์จริง ๆ ตามที่สามีของเธอบอกหรือไม่

การฆาตกรรมดังกล่าวตรงตามลักษณะของ “การฆ่าเพื่อรักษาศักดิ์ศรี” ซึ่งเป็นค่านิยมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสังคมของชาวมุสลิมในอินเดียบางกลุ่ม การฆาตกรรมดังกล่าวมักเกิดขึ้นกับเด็กและสตรี ผู้กระทำการมักเป็นสมาชิกเพศชายของครอบครัวซึ่งอ้างเหตุผลว่าทำไปเพราะเหยื่อฆาตกรรมนำความเสื่อมเสียมาให้ครอบครัว

ตามสถิติของสำนักงานสถิติอาชญากรรมแห่งชาติอินเดีย ในปี 2563 อินเดียมีคดี “การฆ่าเพื่อรักษาศักดิ์ศรี” เกิดขึ้น ทั้งหมด 23 คดี

แหล่งข่าว

https://edition.cnn.com/2021/12/07/india/india-teenager-beheaded-sister-intl-scli/index.html

เครดิตภาพ : Getty Images