เจเรมี ไซด์ส เป็นนักประดาน้ำที่มีช่องยูทูบเป็นของตัวเองชื่อว่า “Exploring with Nug” เขาเชี่ยวชาญการดำน้ำ และมักให้ความช่วยเหลือผู้คนที่ต้องการค้นหาทั้งสิ่งของหรือทรัพย์สินที่สูญหายในน้ำ
สัปดาห์ที่แล้ว เขาได้อัพโหลดวิดีโอคลิปซึ่งแสดงภาพของซากรถใต้แม่น้ำคาล์ฟคิลเลอร์ ในรัฐเทนเนสซี ที่เขาระบุว่าเป็นรถของคู่รักที่หายตัวไป โดยสืบจากตัวทะเบียนรถ ซากดังกล่าวจมอยู่ก้นแม่น้ำโดยที่สภาพของโครงรถยังคงอยู่สมบูรณ์ ภายในรถมีซากติดอยู่ ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นศพของคู่รักวัยรุ่นที่หายตัวไปเมื่อ 21 ปีก่อน
หนุ่มสาวทั้งสองชื่อว่า เอริน ฟอสเตอร์ และ เจเรมี เบชเทล ทั้งคู่หายตัวไปในเดือนเมษายน 2543 ในเมืองสปาร์ตา รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา มีผู้พบเห็นทั้งสองคนขณะมีชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายในรถปอนติแอค แกรนด์แอมของฟอสเตอร์ การหายตัวของทั้งคู่กลายเป็นหนึ่งในคดีปริศนาที่ปิดไม่ลง ตำรวจสันนิษฐานว่าทั้งคู่อาจประสบเหตุเลวร้าย
นักประดาน้ำหนุ่มกล่าวในคลิปว่า “ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ผมดีใจมากที่เจอพวกเขา เสียใจจริงๆ ที่พวกเขาจบชีวิตลงที่นี่”
ไซด์ส กล่าวว่าจากที่เขาเห็น รถอยู่ในสภาพเปิดกระจกทั้งหมด คล้ายกับทั้งคู่กำลังขับรถเล่นแล้วเกิดเสียความควบคุมกะทันหันจนรถเสียหลักและตกลงไปในแม่น้ำ เขายังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่า การค้นพบครั้งนี้มีความหมายมากสำหรับชาวเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคนเดินทางมายังที่เกิดเหตุและบอกว่าเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผู้เสียชีวิตทั้งคู่ ไซด์สได้รับคำขอบคุณจากชาวเมืองเป็นจำนวนมาก
หน่วยชันสูตรของเมืองจะเริ่มดำเนินการพิสูจน์หลักฐานในวันนี้ (8 ธ.ค.) เพื่อยืนยันว่า ศพที่อยู่ในรถทั้งสองร่างนั้นเป็นศพของคู่รักทั้งสองจริงหรือไม่ โดยเก็บตัวอย่างจากซากรถและดินโคลนที่เกาะอยู่กับโครงรถยนต์และนำไปตรวจเทียบดีเอ็นเอ ส่วนทั้งสองครอบครัวได้รับแจ้งข่าวการค้นพบครั้งนี้แล้ว
https://www.dailystar.co.uk/news/world-news/scuba-diver-finds-two-missing-25643138
เครดิตภาพ
Youtube/Exploring with Nug
