เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่บริเวณประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ที่คัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ประมาณ 30 คน แถลงการณ์ฉบับที่ 2 “เราจะไม่กลับบ้าน และจะอยู่รอจนกว่าจะได้รับคำตอบจากรัฐบาล” โดย น.ส.มัยมูเนาะ บุตรดี ตัวแทนกลุ่มฯ อ่านแถลงว่า การที่รัฐบาลสั่งเจ้าหน้าที่สลายการรวมตัวของเราเมื่อค่ำวันที่ 6 ธันวาคม และแจ้งความดำเนินคดี โดยไม่สนใจรับฟังปัญหาของเรา ได้พิสูจน์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยให้ความสำคัญกับปัญหาของประชาชนตัวเล็กตัวน้อย เราจึงขอประกาศว่า ตราบใดที่ข้อเรียกร้องทั้งหมดยังไม่ถูกตอบรับ เราก็จะไม่กลับบ้าน จะยืนหยัดต่อไปจนกว่าจะได้ตามข้อตกลงที่รัฐบาลทำกับเราไว้ทุกข้อ โดยระหว่างนี้เราจะปักหลักอยู่หน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น ด้วยเหตุผล 3 ประการคือ

1.เราไม่ต้องการสร้างเงื่อนไข เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นข้ออ้าง จับกุมและคุมขังพวกเราอีก
2.เราต้องการใช้พื้นที่หน้ายูเอ็น สื่อสารให้สังคม ทั้งภายในและภายนอกประเทศรับรู้ปัญหา
3.เพื่อเฝ้ารอแนวร่วมภาคใต้และภูมิภาคอื่นมาสมทบ

น.ส.มัยมูเนาะ กล่าวต่อว่า เราแค่มาเพื่อทวงสัญญาจากรัฐบาล ไม่มีเจตนาเพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวาย จึงขอย้ำข้อเสนออีกครั้งคือ (1) รัฐบาลต้องตรวจสอบการดำเนินการงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ถึงความไม่ปกติของโครงการทั้งหมดในทุกมิติ (2) จัดให้มีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงยุทธศาสตร์แบบมีส่วนร่วม อันเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือยุติโครงการต่อไป (3) ต้องหยุดดำเนินการทุกอย่างจนกว่าจะดำเนินการในข้อ 1 และข้อ 2 แล้วเสร็จ (4) ยุติการดำเนินคดีกับพวกเรา ทั้ง 37 คน โดยจะเดินทางมาทวงสัญญาอย่างเป็นทางการอีกครั้งบริเวณทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 13 ธ.ค. พร้อมกับเครือข่ายภาคีต่างๆ ที่จะมาสมทบกับพวกเราในวันที่ 12 ธ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการอ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น ทางกลุ่มฯ ได้เคลื่อนตัวไปปักหลักชุมนุมหน้ายูเอ็น โดยมีการเตรียมอุปกรณ์ เช่น น้ำ อาหารและหม้อหุงข้าว เป็นต้น เพื่อใช้ในการปักหลักระหว่างรอคำตอบรับจากรัฐบาล.