เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่ลานอเนกประสงค์ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. เป็นประธานเปิด และเยี่ยมชม “นิทรรศการ 89 ปีรัฐธรรมนูญไทย ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัด มท. หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายไตรภพ วงไตรรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ มท. นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ นายบรรจบ จันทรัตน์ ผู้ช่วยปลัด มท. และข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย (สป.มท.) ร่วมพิธี

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สืบเนื่องมาตั้งแต่ในครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรกของราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2475 จึงได้กำหนดให้วันที่ 10 ธ.ค.ของทุกปี เป็นวันพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันที่มีความสำคัญของการปกครองประเทศ สะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระมหากษัตริย์ทรงให้ความสำคัญกับการปกครองของประเทศ โดยทรงพระราชทานรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองราชอาณาจักร ยังผลให้ประชาชนชาวไทยมีความร่มเย็นเป็นสุขจนถึงปัจจุบัน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้บุคลากรในสังกัด สป.มท. และประชาชนที่สนใจได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรัฐธรรมนูญไทย กระทรวงมหาดไทย โดยสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงได้จัดนิทรรศการเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 2564 ภายใต้หัวข้อ “89 ปี รัฐธรรมนูญไทย ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ซึ่งภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย ภาพและวีดิทัศน์ที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ อาทิ ภาพและวีดิทัศน์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับแรก วีดิทัศน์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน รายละเอียดของรัฐธรรมนูญไทยทั้ง 20 ฉบับ รวมถึงประวัติประธานรัฐสภาและนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นต้น โดยผู้สนใจสามารถร่วมชมนิทรรศการได้ ระหว่างวันที่ 9-14 ธ.ค. 64 ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น. ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ กระทรวงมหาดไทย (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)

“ขอเชิญชวนลูกๆ หลานๆ เด็ก เยาวชน และพี่น้องประชาชนที่สนใจ มาร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศไทย เพื่อร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมกันภาคภูมิใจในการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด อันจะนำมาซึ่งการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว.