เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดอภิปรายในหัวข้อ “วิกฤตรัฐธรรมนูญ ในวันรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย”

นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวตอนหนึ่งว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นสำคัญต้องแก้มาตรา 256 เพื่อจัดตั้งสภาร่างรัฐธรมนูญ (ส.ส.ร.) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ส่วนช่องทางที่ดำเนินการได้คือ การเสนอผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เสียง ส.ส. 100 คน เพื่อเสนอญัตติเข้าสภาผู้แทนราษฎร และการเข้าชื่อประชาชน 5 หมื่นรายชื่อ แต่ทั้งหมดอาศัยความร่วมมือกับประชาชน ซึ่งมาตรา 256 เป็นข้อเสนอที่ง่ายที่สุด เพื่อให้สังคมไปต่อ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลง 2475 ผ่านมาแล้ว 89 ปี มีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 20 ฉบับ รัฐธรรมนูญถูกเปลี่ยนไปมา เพราะคนร่างไม่ได้ร่างด้วยเหตุผล แต่ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในสังคม ไม่ได้ร่างเพื่อคนทุกฝ่าย ร่างมาด้วยเหตุผลดูสวยหรูแต่ท้ายที่สุดคือเครื่องมือของผู้มีอำนาจ เพื่อความได้เปรียบทางการเมืองของฝ่ายตัวอง ดังนั้นฉบับนี้จึงไม่ใช่ฉบับสุดท้าย และไม่ใช่ฉบับที่ดีที่สุดแต่เลวที่สุดด้วยซ้ำเพราะคนเขียนคือคนที่รับงานมาจากผู้ที่รัฐประหาร และคิดที่จะดำรงอำนาจตัวเองต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด วันนี้จำเป็นที่ต้องคิดถึงหนทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกคนต้องร่วมกันทำต่อไป และส่วนตัวมองว่าควรแก้มาตราเดียวคือ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เนื่องจากหากแก้เยอะก็เหมือนเอาของมาขายแบบเหมาถาด คนไม่ชอบไม่ซื้อทั้งหมด เอาชิ้นเดียวคือมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี

“แค่เรื่องเดียวทำให้มันเสร็จก่อนมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น การเลือกตั้งนั้นจะไม่เสียเปล่า เพราะแม้ใช้ระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ท้ายที่สุด 250 ส.ว.เอาไปกิน ดังนั้นหัวใจการแก้รัฐธรรมนูญคือการแก้ที่ 250 ส.ว. โดยต้นเดือนหน้าจะมีการรณรงค์ผ่านออนไลน์ ผมขอแค่ 7 หมื่นรายชื่อ เป้าหมาย 3 เดือน ไม่ต้องถึงล้านชื่อเพราะมากเกินไปทำให้เสียเวลาตรวจสอบรายชื่อ เสร็จเมื่อไรส่งเมื่อนั้น เรื่องนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบสันติ ถูกกฎหมาย ไม่ลงถนน แต่เปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปสู่สิ่งที่ดีที่สุดได้” นายสมชัยกล่าว

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้แย่มาก ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมประเด็นบัตร 2 ใบ หลายคนมองว่า พรรค พท.ได้เปรียบและแลนด์สไลด์ แต่ความจริงแล้วคิดว่าบัตร 2 ใบ ไม่ได้มีประโยชน์กับเรา แม้ชนะท่วมท้นแบบแลนด์สไลด์ หรือจะสไลด์ลงหลุม สุดท้ายตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ สุดท้ายกลับมาเหมือนเดิมที่เราชนะมาได้ที่หนึ่ง แต่จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะ ส.ว.ไม่เอา หรือว่าจัดตั้งรัฐบาลได้แต่สามารถอยู่ได้นานหรือไม่ ถ้ายังมีองค์กรอิสระแบบนี้ เราหัวคะมำเพราะองค์พวกนี้ทั้งนั้น

นายสุทิน กล่าวว่า ปัญหาจริงๆ อยู่คนที่คนครองอำนาจวันนี้ คือ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือใครที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้นต้องจัดการตรงนี้ให้จบก่อน เราจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นอำนาจ หรือปลด พล.อ.ประยุทธ์ และผู้สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนแก้รัฐธรรมนูญ หนทางไหนเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องเจอกับระเบิด 3 ลูก คือ 1.การอภิปรายไม่ไว้วางใจ 2.พ.ร.บ.งบประมาณ และ 3.วาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯ 8 ปี ดังนั้นตนเชื่อว่าจะมีการยุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่ภายในเดือน ส.ค.65 อย่างแน่นอน

“ระเบิดทั้ง 3 ลูกนี้จะเปลี่ยนรัฐบาลโดยวิธีสันติวิธี ผมมีความหวังเล็กๆ ว่า จะต้องปลด พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนถึงแก้รัฐธรรมนูญ วันนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นวิกฤติจริงๆ ตั้งแต่จะร่าง เอามาใช้ และจะแก้อีกดังนั้นเราต้องเดินหน้าต่อโดยไม่เสียกำลังทั้งในและนอกสภาฯ ขอทุกคนอย่าท้อ เพราะท้อก็เข้าทางเขา” นายสุทิน กล่าว.