เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานงานเปิดตัว นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือดร.เอ้ อดีต อธิการบดีของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีแกนนำและสมาชิกพรรคมาร่วมให้กำลังใจอย่างคึกคัก นำโดย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคฯ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคฯ และอดีตหัวหน้าพรรคฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคฯ และอดีตผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงรัฐมนตรีของพรรค กรรมการบริหารพรรคฯ ส.ส.พรรคฯ ทั้งอดีตและปัจจุบัน เป็นต้น อีกทั้งยังมีทีมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคประชาธิปัตย์ 50 คน มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้การเปิดตัวนายสุชัชวีร์ ได้เดินออกมาพร้อมกับบิดา มารดา และภรรยา ที่มาให้กำลัง โดยได้เล่าถึงการศึกษาและผลงานต่างๆที่ผ่านมา จนได้รับตำแหน่ง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แต่วันนี้ตนเห็นปัญหาต่างๆของกทม. น้ำท่วมขัง เจอรถติด ฝุ่นพิษ PM 2.5 การศึกษา ผ่านมา 30 ปี คนกทม.ยังยิ้มไม่ออก รถติด เศรษฐกิจล้าหลัง เมืองพังพินาศ และถ้า กทม.ไม่ถูกฉุดขึ้นมา อีก 20 ปี กทม.จะจมแน่นอน ซึ่งการเลือกผู้ว่าฯ ไม่ใช่เลือกคน แต่เลือกอนาคตของคนกทม.และลูกหลาน

“ผมขอคนกรุงเทพฯ ให้โอกาสผู้ว่าฯ ที่มาจากวิศวกรที่มีคุณวุฒิ เป็นอาจารย์วิศวกรรมศาสตร์ และเป็นอดีตนายกสภาวิศวกร จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้รอดจากน้ำท่วม มีแก้มลิงใต้ดินบนดิน และริเริ่มป้องกันน้ำทะเลหนุนร่วมกับจังหวัดข้างเคียง มีระบบอินเทอร์เน็ตเตือนภัยประชาชน เช่นเตือนเรื่องน้ำท่วม รถติด มลพิษ ที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าน้ำท่วมสะพานซังฮี้ไม่มีการเตือนภัยอะไรเลย ส่วนปัญหารถติดฆ่าอนาคตลูกหลานเราที่สุด เพราะเด็กขาดจินตนาการและมีแต่ความเครียด ผมเชื่อว่าเราเปลี่ยนได้ เหมือนกรุงโตเกียวที่มีประชากรมากกว่า กทม.หลายสิบเท่า เขายังทำได้ เราก็ต้องทำได้ ดังนั้นผมขอประกาศว่าจะทำกทม.ให้เหมือนกรุงโตเกียว” นายสุชัชวีร์ กล่าว

นายสุชัชชวีร์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้กทม.ต้องมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดี หากประชาชนเลือกตน จะมีโอกาสเห็นทางจักรยานลอยฟ้า ระบบสัญญาณไฟจราจรควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ไม่ต้องพึ่งตำรวจจราจร และเอาเกาะกลางถนนออกเพื่อเพิ่มเลนใช้เป็นพื้นที่จราจร รวมทั้งเพิ่มพื้นที่ใต้ดินให้ชาวกทม.ใช้เหมือนสิงคโปร์ ขณะที่ปัญหาฝุ่นพิษ อยู่กับเราทุกวันเกิดจากรถบรรทุก การก่อสร้าง หากให้โอกาสตนจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้เด็ดขาด เพื่อลูกหลาน สำหรับปัญหาเศรษฐกิจ หากกทม.ยังไม่มีอะไรใหม่ถามว่าใครจะมาลงทุน และมาท่องเที่ยว คนมาแล้วไม่อยากมาอีก เราสามารถเปลี่ยนเศรษฐกิจเมืองให้ทันสมัย สร้างรายได้ให้เป็นเมืองเศรษฐกิจดิจิทัล ส่วนเรื่องการศึกษาในกทม.เวลานี้ไม่มีใครสนใจให้ลูกมาเรียนในสังกัดกทม. ตนจะสร้างโรงเรียนสาธิต 50 เขต 50 โรงเรียนให้เรียน 2 ภาษา เรียนโค้ดดิ้งที่ฟรี มีคุณภาพ จะพัฒนาศูนย์เด็กเล็กในกทม.ทั้ง 292 ศูนย์ จะดูแลลูกหลานท่านเหมือนลูกหลานตน ไม่ให้แพ้ใครในโลก รวมทั้งจะยกระดับสาธารณสุขในกทม. มีศูนย์บริการ 68 แห่ง แต่ไม่มีใครเชื่อถือ เพราะไม่มีเครื่องมือ และหมอเพียงพอ จะยกระดับให้เป็นศูนย์การแพทย์ เพื่อดูแลคนกทม.อย่างมีคุณภาพ ให้มีเครื่องฟอกไตทุกศูนย์สาธารณสุข เหมือนที่ตนทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศมาแล้ว

“กทม.ปัญหาใหญ่มาก ดังนั้นต้องคิดให้ใหญ่กว่าเพราะถ้าคิดเล็กอีกกี่ชาติก็แก้ปัญหาไม่ได้ กรุงเทพฯจะต้องเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัยต้นแบบของอาเซียนให้ได้ ดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพ ทุกด้าน ไม่ว่ารวยหรือจน รวมทั้งต้องใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมและเข้มข้น ไม่ว่าใครก็ตาม กรุงเทพฯจะต้องเปลี่ยนเป็นเมืองที่ทันสมัย ถ้าเกิดคิดแบบเดิม บริหารแบบเก่าก็ควรแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ 10-20 ปีที่แล้ว หากผมทำให้กรุงเทพฯ เหมือนกรุงโตเกียว ที่น้ำไม่ท่วม รถไม่ติด และหากผมได้รับโอกาสเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะเสนอตัวให้กรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ปี 2036 เพราะโอลิมปิกสามารถเปลี่ยนแปลงเมืองได้ดีที่สุด ฟุตปาธจะเรียบสนิท สายไฟจะลงใต้ดิน เหมือนที่โตเกียว กรุงโซล ปักกิ่ง ผมจึงสะสมประสบการณ์ 30 ปี เดินทางทั่วโลกแสวงหาทางแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อวันนี้ สร้าง อนาคตให้ลูกหลาน สร้างรอยยิ้มให้คนกรุงเทพฯ ผมเชื่อมั่นว่าเราทำได้” นายสุชัชวีร์ กล่าว

จากนั้นได้เปิดคลิปวิดีโอนายจุรินทร์ กล่าวขอเสียงสนับสนุนจากชาวกทม. ว่านับจากนี้ถือว่าพรรคประชาธิปัตย์แนะนำทางที่ดีที่สุดให้กับคนกรุงเทพฯ ขอให้นำชัยชนะสู่การปฏิบัติและนำชัยชนะสูงพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯทุกคนได้รับชัยชนะตนมั่นใจว่าเราจะเปลี่ยนกรุงเทพเราทำได้แน่นอน จากนั้นแกนนำพรรคร่วมกันถ่ายรูปกับนายสุชัชวีร์ พร้อมเปิดเพลง “เปลี่ยนกรุงเทพ” โดยมีผู้สนับสนุนมอบดอกไม้ให้กำลังใจอย่างคึกคัก