เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา มีวาระพิจารณา พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ…. ซี่ง กรรมาธิกาาร (กมธ.) ที่มี นพ.เจตน์ ศิรธารานนท์ ส.ว. เป็นประธาน กมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสองและวาระสาม ทั้งนี้ร่างที่ผ่านการพิจารณาของกมธ.ฯ ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาที่สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบ

ทั้งนี้ที่ประชุมวุฒิสภาเสียงข้างมาก ได้เห็นชอบต่อการแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของกมธ.ฯ ในหลายประเด็น อาทิ ในหมวดคุ้มครองบุคคลที่อาจได้รับอันตรายจากการบริโภคใบกระท่อมและการป้องกันการใช้ใบกระท่อมในทางที่ผิด มาตรา 24 กมธ.ฯ ได้ตัดข้อความ ว่า น้ำต้มใบกระท่อมออก จากเดิมที่กำหนดห้ามขายทั้งใบและน้ำต้ม และ เติมบทบัญญัติ (4) ให้คุ้มครองบุคคลอื่นตามที่ รมว.สาขาธารณสุขประกาศกำหนด และเพิ่มวรรคสอง กำหนดให้ผู้ขายใบกระท่อม ต้องปิดประกาศหรือแจ้ง ที่จุดขาย ให้ทราบถึงข้อห้ามขายให้กับบุคคล

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรณีที่วุฒิสภา เติม (4) นั้น เนื่องจากมองว่าสารในใบกระท่อมยังมีฤทธิ์ที่ทำให้เป็นโทษต่อร่างกายหากใช้ไม่ถูกวิธีและในเอกสารทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกายังพบว่านอกจากหญิงมีครรภ์, หญิงให้นมบุตร แล้ว บุคคลที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ อาจได้รับโทษจากการบริโภคใบกระท่อมด้วย จึงจำเป็นต้องควบคุมเพิ่มเติม ขณะที่การให้ติดป้ายประกาศเพื่อสร้างความตระหนักของการห้ามขายให้กับบุคคลต้องห้ามด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภายังได้แก้ไขมาตรา 25 ว่าสถานที่ห้ามขายใบกระท่อม โดยได้เพิ่มเติมห้ามขายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ และ เติมอำนาจให้กับ รมต.ยุติธรรม เป็นผู้ออกประกาศกำหนดในสถานที่ หรือวิธีการใด หรือลักษณะอื่นใด เพื่อคำนึงถึงอนาคตที่อาจมีช่องทางการขายอื่นๆเพิ่มเติม และเพื่อไม่ให้กลับมาแก้ไขกฎหมายที่มีขั้นตอนและใช้ระยะเวลานาน

ขณะที่หมวดว่าด้วยบทกำหนดโทษ กมธ. ได้แก้ไข มาตรา 34 โดยเพิ่มวรรคท้าย ระบุว่ากรณีขายให้กับบุคคลที่กฎหมายกำหนดห้ามขาย คือ อายุต่ำกว่า 18 ปี, สตรีมีครรภ์, สตรีให้นมบุตร หรือบุคคลอื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด ต้องระวางโทษเป็นสองเท่า คือ จาากไม่เกิน 5 หมื่นบาท และยังแก้ไขมาตรา 37 โดยเพิ่มความที่ระบุว่าหรือบุคคลอื่นตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด ทำให้ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ให้ความเห็นส่วนตัวว่า กรณีกำหนดว่าาบุคคลอื่นใด ตนไม่เคยเห็นในบทกำหนดโทษอื่น ขอให้เตรียมชี้แจงกับสภาผู้แทนราษฎรให้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมวุฒิสภา ได้ใช้เวลาพิจารณาพิจารณาวาระสอง นานกว่า 8 ชั่วโมง 30 นาทีจากนั้นได้ลงมติในวาระสาม โดยได้รับเสียงเห็นชอบเสียงเป็นเอกฉันท์ 145 เสียง ทั้งนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวได้แก้ไขเพิ่มเติมจากฉบับที่รับมาจากสภาฯ ดังนั้นต้องส่งคืนให้สภาฯ พิจารณาอีกครั้ง ว่าจะเห็นชอบกับที่วุฒิสภาแก้ไขหรือไม่ หากไม่เห็นด้วยต้องตั้งกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจาณาร่างกฎหมายดังกล่าวอีกครั้งก่อนจะเข้าสู่กระบวนการทูลเกล้าฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับร่าง พ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ…. ถือเป็นร่างกฎหมายฉบับที่ 2 ที่ต้องส่งให้สภาฯ พิจารณาอีกครั้ง โดยฉบับแรกคือ ร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่…) พ.ศ…..