เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบกระบวนการจัดชั้นนักโทษโดยเฉพาะคดีทุจริต ที่มีนายเข็มชัย ชุติวงศ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เป็นประธานว่าอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องขังแต่ละจังหวัดว่ามีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์นักโทษชั้นดี ชั้นเยี่ยมจริงตามที่กรมราชทัณฑ์พิจารณาหรือไม่ ซึ่งตามกรอบพระราชกฤษฎีกาให้เวลา 120 วันหรือ 4 เดือน จึงยังไม่ปล่อยใคร และการอภัยโทษมี 3 ประเภท คือ 1.นักโทษประหารชีวิต ลดไม่ประหารชีวิต เหลือจำคุกตลอดชีวิต 2.พระราชทานปล่อยตัวนักโทษที่รับโทษมาในระยะหนึ่ง และเหลือเวลาอีก 1 ปี หรือเป็นนักโทษที่ป่วยติดเตียง แพทย์อย่างน้อย 2 คนวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียง และ 3.พิจารณาพระราชทานอภัยโทษ 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 2 มีคณะกรรมการกลั่นกรองตามขั้นตอน
นายวิษณุ กล่าวว่า คณะกรรมการอิสระที่นายกฯตั้งให้ทำงานภายใน 30 วัน พิจารณาให้เสร็จก่อนที่จะปล่อยตัว หรือลดโทษ ทั้งนี้ การให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้เวลา 30 วัน ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเพียงพอ แต่หากไม่ทันก็ขยายเวลาได้ เพราะไม่ได้ตรวจสอบบัญชีผู้ต้องขังทั้งหมด เพราะตรวจสอบแค่หลักเกณฑ์ วิธีการจัดชั้นนักโทษ และการเสนอแนะหลักเกณฑ์ในครั้งต่อไปว่าต้องมีการเว้นระยะห่างการพิจารณาลดโทษเท่าใด โดย 4 ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีการเว้นระยะเลย
เมื่อถามว่า รมว.ยุติธรรม มีอำนาจเลือกได้ว่าจะให้สิทธิพิเศษกับใครได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอำนาจเลือกให้สิทธิพิเศษใครได้มีเพียงดูหลักเกณฑ์ภาพรวมเท่านั้น จะหลับตาจิ้มใครไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ผู้ต้องขังคดีระบายข้าวได้ลดโทษจาก 48 ปี เหลือไม่กี่ปีนั้น นายวิษณุกล่าวว่า เนื่องจากได้ลดโทษ 1 ใน 3 ติดต่อกันหลายครั้ง ดังนั้น คณะกรรมการตรวจสอบฯ ชุดนายเข็มชัยต้องพิจารณา ศึกษาเสนอแนวทางการเว้นระยะห่างลดโทษและให้ตรวจสอบย้อนหลังว่าหลักเกณฑ์เป็นอย่างไร และพิสดารแตกต่างไปจากเดิมหรือไม่ และตนมีคำตอบแล้วแต่รอให้คณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม สามารถถูกร้องตรวจสอบได้ หากประชาชนเห็นว่าไม่ชอบมาพากล
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีการมองกันว่า จากนี้นักการเมืองอาจคิดว่าทำผิดทุจริตไปเดี๋ยวก็ได้ลดโทษนั้น ยืนยันว่าไม่ได้ลดโทษเพราะนักการเมือง แต่ลดเพราะหลักเกณ์ที่วางไว้แต่สามารถพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ระยะห่างได้ ซึ่งหวังว่าคณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นตรวจสอบ จะเสนอเรื่องดังกล่าวมาและตนขอไม่ตอบว่าการตั้งคณะกรรมการฯ ดังกล่าวขึ้นมาเฉพาะแค่เรื่องคดีจำนำข้าว เพราะไม่อยากถูกมองว่าเลือกที่รักมักที่ชัง.
