เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 20 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงมาตรการช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่า มาตรการในช่วงปีใหม่ได้ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมุ่งเน้นที่การรวมตัวของคนจำนวนมากและกิจกรรมการเคานท์ดาวน์ ซึ่งทาง ศบค.และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงและมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ว่า หากมีการรวมตัวเกินกว่า 1,000 คนแล้วจะมีมาตรการอะไรบ้าง หรือต่ำกว่า 1,000 คน จะมีมาตรการอะไรบ้าง แต่มาตรการที่สำคัญ คือ การป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย
พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า ส่วนการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนจะต้องตรวจหาเชื้อก่อนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละพื้นที่ ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะเป็นผู้กำหนด ขณะที่การเตรียมเปิดสถานบันเทิงเพื่อจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่นั้น ยืนยันว่าสถานบันเทิงยังไม่อนุญาตให้เปิด ที่อนุญาตให้เปิดในปัจจุบันเป็นสถานบริการที่จดประกอบจำหน่ายอาหาร ซึ่งมีการอนุญาตให้แสดงดนตรีในจำนวนที่จำกัด เพียงแต่ช่วงปีใหม่เฉพาะคืนวันที่ 31 ธ.ค.64 อนุญาตให้จำหน่ายสุราได้ถึงเวลา 01.00 น.
เมื่อถามถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่พบมากขึ้นหลังจากการเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า นายกฯ ได้สั่งการให้จับตามาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว แต่ใน 2 วันที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโอไมครอนจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ประเทศอังกฤษ แต่มีอีกหลายประเทศที่ค่อนข้างอันตรายจึงต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น
พล.อ.สุพจน์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ภายหลังมีการปะทะทำให้เกิดการทะลักเข้าเมืองจำนวนมาก ว่า สถานการณ์ในพื้นที่ยังมีการสู้รบที่รุนแรงอย่างต่อเนื่อง และมีผู้ที่หลบหนีการสู้รบเข้าประเทศจำนวนหลักพัน เท่าที่ได้รับรายงานประมาณ 2 พัน แต่ยังมีบางพื้นที่สามารถส่งกลับไปได้บ้างแล้ว และหากสถานการณ์เข้าสู่ปกติ จะต้องมีการผลักดันผู้ลี้ภัยกลับเมือง ทั้งนี้ การตั้งคณะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลชุดใหม่ เป็นระดับนโยบายที่กำกับดูแลภาพรวมในแต่ละด้าน.