เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่วัดเขาโต๊ะ ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ชาวบ้านจำนวนมากมาร่วมพิธีกรรมฉลองเมรุหลังใหม่ ซึ่งพิธีแปลกนี้หาชมที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ จ.สุรินทร์ เพราะเป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวเชื้อสายเขมร เป็นความเชื่อมานานกว่า 100 ปี ถ้าไม่ทำพิธีกรรมดังกล่าวก่อนนำศพจริงมาเผา จะทำให้วิญญาณคนตายย้อนกลับแล้วเกิดเรื่องไม่ดีได้

โดยพิธีกรรมดังกล่าว เรียกว่า “เผาตาเจ๊กยายกล้วย” แปลเป็นภาษาไทย เผาตากล้วย โดยจัดคล้ายกับงานศพทุกอย่าง ต่างเพียงนำต้นกล้วยมาใส่ในโลงแทนศพ โดยเหตุผลที่เลือกต้นกล้วยเพราะมีน้ำอยู่ในลำต้นมากเปรียบเสมือนเลือดคน เพื่อเป็นการทดสอบว่าเมรุหลังใหม่สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่

นายวิชิต คิดดีจริง อายุ 86 ปี อาจารย์เก่าแก่ในการประกอบพิธีดังกล่าว เล่าว่า ตามความเชื่อของชาวบ้าน ถ้าเกิดว่าหลังการสร้างเมรุเสร็จแล้วไม่มีการทำพิธีกรรมในลักษณะแบบนี้ จะมีอันเป็นไปและจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเจ้าอาวาส จะทำให้เจ้าอาวาสถึงแก่ความตายได้ เพราะวิญญาณจะมาตามเอาชีวิต

เหตุผลของพิธีกรรมดังกล่าวทำไมต้องใช้เป็นต้นกล้วย เพราะต้นกล้วยนั้นถ้าเปรียบเทียบกับคน ตอนคนเกิดมา ความหวานของคนเสมือนความหวานของต้นกล้วย เพราะต้นกล้วยแต่ละต้นเกิดมาต้องมีความหวานเปรียบเสมือนชีวิตคน ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวจะมีการจัดพิธีเหมือนงานศพคนทุกอย่าง ตั้งแต่การสวด การชักผ้าบังสุกุล รวมไปถึงการเก็บกระดูกหรือเก็บเศษขี้เถ้าไปลอยอังคาร และพิธีกรรมนี้เป็นเพียงความเชื่อของชาวบ้านในจังหวัดสุรินทร์ที่เป็นเชื้อสายเขมร เท่านั้น

