สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซันติอาโก ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ว่าประธานาธิบดีเซบาสเตียน ปีเญรา ต้อนรับและพบหารือกับนายกาเบรียล บอริก ว่าที่ผู้นำคนใหม่ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงซันติอาโก เมื่อวันจันทร์
Hoy, visitamos el Palacio de La Moneda, por invitación del Presidente Piñera. Cuando estuve frente al busto de Salvador Allende pensé en los que, cómo él, estuvieron antes que nosotros. Sus sueños de un Chile mejor, son los que vamos a seguir construyendo junto a todos ustedes. pic.twitter.com/iTZQXSnVaC
— Gabriel Boric Font (@gabrielboric) December 20, 2021
ทั้งนี้ บอริก ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายซ้าย คว้าชัยชนะจากการเลือกตั้งผู้นำชิลีรอบชิงดำ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนเกือบ 56% ส่วนคู่แข่ง คือนายโฮเซ อันโตนิโอ แคสต์ วัย 55 ปี จากพรรคอนุรักษนิยม ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนประมาณ 44% โดยเมื่อรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ในเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้ บอริกจะมีอายุ 36 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดของชิลี
The rise of Gabriel Boric is remarkably intertwined with Piñera's presidencies. During his first term, Piñera faced Boric during the student protests. Now, nearly ten years later, Piñera meets Boric as president-elect, waiting to succeed him. pic.twitter.com/MnmH1CICDa
— Boris van der Spek (@BorisvanderSpek) December 20, 2021
ขณะที่สื่อหลายแห่งเรียกการพบกันระหว่างปีเญรากับบอริก “เป็นการคืนสู่เหย้า” เนื่องจากย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2554 บอริกเป็นอดีตแกนนำแนวร่วมนักศึกษา เคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเรียกร้องการปฏิรูปสวัสดิการด้านการศึกษา จากรัฐบาลของประธานาธิบดีปีเญรา ด้านผู้นำชิลียืนยัน การมอบความสนับสนุนและความร่วมมืออย่างเต็มที่ ให้แก่ว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไป ในช่วงของการถ่ายโอนอำนาจซึ่งจะมีเวลาประมาณ 3 เดือน

สำหรับการเลือกตั้งรอบตัดสินครั้งนี้ มีประชาชนออกมาลงคะแนนมากเกือบ 56% เป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ชิลียกเลิกกฎหมายบังคับการออกมาใช้สิทธิ เมื่อปี 2555 สะท้อนความตื่นตัว และ “ความต้องการเปลี่ยนแปลง” ของประชาชน
ส่วนนโยบายน่าสนใจที่บอริกประกาศไว้ในช่วงหาเสียง รวมถึงการยกเลิกระบบบำนาญเอกชน หนึ่งในสัญลักษณ์ของกลไกเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ ที่จัดตั้งในสมัยของนายพลออกุสโต ปิโนเชต์ และการคัดค้านโครงการเหมืองทองแดงแห่งใหม่ แม้ชิลีเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกทองแดงรายใหญ่ที่สุดของโลก
นอกจากนี้ ว่าที่ผู้นำของชิลียังกล่าวถึง “การจัดตั้งระบบสวัสดิการสังคมอย่างแท้จริง” ด้วยมาตรการที่รวมถึง การเพิ่มเพดานภาษีของกลุ่มผู้มีฐานะ และการเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาสังคม ภายในประเทศแห่งนี้ ซึ่งมีสัดส่วนความเหลื่อมล้ำมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม นโยบายเหล่านี้สร้างความวิตกกังวลอย่างหนัก ให้กับบรรดานักลงทุน ว่าจะส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชิลี ซึ่งมีฐานะมั่งคั่งมากที่สุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกา.
เครดิตภาพ : AP