สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อวันอังคาร ว่าเพื่อตอบโต้กับมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งมีมติให้ขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ 4 คน ของคณะกรรมาธิการด้านเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศ ( ยูเอสซีไออาร์เอฟ ) ของสหรัฐ ได้แก่ ผู้ดำรงตำแหน่งประธาน รองประธาน และสมาชิกอาวุโสอีก 2 คน


ทั้งนี้ บุคคลทั้งสี่จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในจีน และเขตบริหารพิเศษสองแห่ง คือ ฮ่องกงและมาเก๊า ขณะที่พลเมืองและหน่วยงานทุกแห่งในจีน ห้ามมีความร่วมมือกับกลุ่มคนเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าในทางใดก็ตาม


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่ง เป็นการตอบโต้กรณีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐมีมติเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น “วันสิทธิมนุษยชนโลก” ขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน และอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของยูกันดา เบลารุส จีน บังกลาเทศ ศรีลังกา และเม็กซิโก รวม 12 คน พร้อมสมาชิกในครอบครัว จากการได้รับวีซ่า เนื่องจาก “เป็นกลุ่มคนที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและคอร์รัปชั่นอย่างร้ายแรง”


ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังของสหรัฐออกแถลงการณ์ คว่ำบาตรและใช้มาตรการจำกัดทางการเงิน กับบุคคล 15 คน และนิติบุคคล 10 แห่ง จากจีน เมียนมา รัสเซีย เกาหลีเหนือ และบังกลาเทศ โดยหนึ่งในบริษัทที่อยู่ในรายชื่อ คือ กลุ่มบริษัท “เซนซ์ไทม์” ของจีน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน “อุปกรณ์สังเกตการณ์” ซึ่งรัฐบาลวอชิงตันเชื่อมั่นว่า เป็นผู้จัดหาเครื่องมือสอดแนมให้แก่หน่วยงานรัฐ เพื่อใช้ติดตามประชาชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES