สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ประกาศให้พื้นที่อย่างน้อย 6 แห่ง ทางตอนกลาง และบริเวณภาคใต้ตอนบนของฟิลิปปินส์ “เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ” เนื่องจากอิทธิพลรุนแรงของไต้ฝุ่น ราอี หรือ พายุ “โอเดตต์” ซึ่งพาดผ่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ เขตมีมาโรปา เขตวิซายัสตะวันตก เขตวิซายัสกลาง เขตวิซายัสตะวันออก เขตวิซายัสตะวันตก เขตมินดาเนาเหนือ และเขตคารากา

ทั้งนี้ การประกาศคำสั่งดังกล่าวจะเป็นการเร่งการส่งมอบความช่วยเหลือจากส่วนกลาง ทั้งในด้านการเงิน และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยรายงานของสำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ไว้ที่ “เกือบ 400 รายเป็นอย่างน้อย” ประชาชน 630,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และได้รับผลกระทบอีก 1.8 ล้านคน
Scenes of devastation lined roads in the Philippines, days after a powerful typhoon hit its central and southern regions https://t.co/89DN2ZYdwo pic.twitter.com/HZZprtkRGK
— Reuters (@Reuters) December 21, 2021
Hundreds of people have been killed by a powerful typhoon in the Philippines. Thousands have been displaced, while food and water are running out.
— DW News (@dwnews) December 22, 2021
Authorities have warned of looting because of growing hunger. pic.twitter.com/2CcxETMh6X
ขณะที่การส่งมอบความช่วยเหลือยังเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยส่วนใหญ่เป็นเกาะ ด้านประชาชนในพื้นที่กังวลกับเสบียงอาหารและยารักษาโรคขั้นพื้นฐานที่เริ่มร่อยหรอ

ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ยอมรับว่า อิทธิพลของพายุราอี “สร้างความเสียหายมากกว่าที่คิด” โดยในเบื้องต้นได้คาดการณ์ความเสียหายไว้ที่ “ระดับกลาง” เท่านั้น ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) ยังไม่ฟันธง ว่าความรุนแรงของภัยธรรมชาติครั้งนี้เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อนมากเพียงใด แต่ยอมรับว่า ปรากฏการณ์ลักษณะนี้เกิดบ่อยครั้งมากขึ้น เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในรอบ 4 ทศวรรษที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : AP