บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ในฐานะผู้นำในธุรกิจเคมีภัณฑ์ระดับสากล ประกาศเป้าหมายสู่ “Together To Net Zero” ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ร่วมกัน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดลง 20% ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593

นับเป็นความมุ่งมั่นและเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ยิ่งใหญ่ของ GC ในการขับเคลื่อนเพื่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน จึงได้การประกาศแผนการดำเนินงานและแผนการลงทุนที่ชัดเจน พร้อมศึกษาและนำนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยีขั้นสูงมาปรับใช้ ด้วยความมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) พร้อมกับการบูรณาการหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนตามกรอบเป้าหมายการพัฒนาแบบยั่งยืน (SDGs) สู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย Net Zero โดยขับเคลื่อนด้วยเสาหลัก 3 ประการ ได้แก่

1. Efficiency-driven การเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ โดยใช้หลัก “5R” และเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งเทคโนโลยีที่มีอยู่และเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร และลดการใช้พลังงาน นำนวัตกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ และแสวงหาเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำรูปแบบใหม่เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของเทคโนโลยีในปัจจุบัน

2. Portfolio-driven การบริหารพอร์ตโฟลิโอธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของ GC ผ่านนวัตกรรมและการลงทุน โดยการปรับเปลี่ยน พอร์ตโฟลิโอไปสู่ธุรกิจและผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ อาทิเช่น การลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษมูลค่าสูง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม และผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัสดุหมุนเวียน
GC ได้เข้าซื้อกิจการของ aAllnex ผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มสารเคลือบและสารเติมแต่งสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท aAllnex เป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรม Coating มานานกว่า 70 ปี และยึดถือนโยบายในการปล่อยคาร์บอนต่ำ จนได้รับการจัดอันดับจาก Gold Ratings ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนจาก EcoVadis อีกหนึ่งตัวอย่าง คือ NatureWorks ผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพอันดับหนึ่งของโลก
ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ GC โดยร่วมกันสร้างโรงงานพลาสติกชีวภาพ แบบครบวงจรแห่งใหม่ในประเทศไทย ส่งผลให้ GC เป็นบริษัทเดียวในโลกที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจพลาสติกชีวภาพ รวมถึงการดำเนินโครงการบริหารจัดการพลาสติกใช้แล้วแบบครบวงจร

3. Compensation-driven เป็นเสาหลักสุดท้ายของกรอบนโยบายการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยทางแก้ปัญหาที่มีธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (Nature-Based Solutions) รวมทั้งการจัดหาและลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดักจับคาร์บอน ผ่านแนวทางต่างๆ ได้แก่ Corporate Venture Capitals การสร้างพันธมิตร และการร่วมทุนทางธุรกิจ เพื่อให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ

GC วางแผนในการลงทุนสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2573 และจะลงทุนเพิ่มขึ้น ในทศวรรษต่อไป เพื่อการบรรลุเป้าหมายโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจ พร้อมนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์แบบครบวงจร เพื่อร่วมกันลดปริมาณขยะพลาสติก

ดร. คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GC กล่าวว่า บริษัทฯ ในฐานะของบริษัทเคมีภัณฑ์ระดับสากล เราให้คำมั่นเพื่อสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน ด้วยแผนงานที่ชัดเจนในการลดก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 20% ภายในปี 2573 และพร้อมเดินหน้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2593 ในฐานะพลเมืองโลก เราต้องการส่งต่อโลกใบนี้ ที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นต่อไป และแน่นอนว่าเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และผู้บริโภค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการจัดการผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เราพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในระดับสากล และพร้อมที่จะสนับสนุนลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนต้องหันหน้ามาร่วมมือเพื่อช่วยให้โลกของเรา สามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero ไปด้วยกัน