เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงกรณีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เข้าประเทศไทยผ่านระบบ Test & Go ตรวจ RT-PCR พบติดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน จากนั้นหลบหนีออกจากโรงแรมย่านสุขุมวิท ตามจับตัวได้ที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ รพ.เกาะสมุย ตรวจผลออกมาเป็นลบ สร้างความสับสนให้กับสังคม เกี่ยวกับเรื่องนี้ขอชี้แจงว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าว ตรวจพบผลเป็นบวกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ตามเกณฑ์ รพ.ต้องส่งตรวจหาสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. โดยตรวจเบื้องต้นพบติดเชื้อโอมิครอน หลังจากนั้นได้ตรวจรหัสพันธุกรรมทั้งตัวโดยเพิ่มจำนวนเชื้อ 30 วงรอบ (CT) ผลยืนยันเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. เป็นสายพันธุ์โอมิครอน จากนั้นนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวหายไป 2-3 วัน โผล่ที่เกาะสมุย รพ.เกาะสมุย ตรวจยืนยันผลแล็บ 2 แห่ง พบว่าผลเป็นลบ เนื่องจากเชื้อเหลือน้อยแต่ยังสามารถติดเชื้อได้
“ตามปกติหากคนที่มีเชื้อมากจะปั่นเชื้อเพียงไม่กี่รอบก็สามารถตรวจเจอเชื้อได้ กรณีของนักท่องรายดังกล่าวปั่นถึง 30 วงรอบ ยิ่งไปถึงสมุย 2-3 วัน เชื้อยิ่งเหลือน้อยจึงตรวจไม่เจอ ดังนั้นค่อนข้างสบายใจว่าโอกาสในการแพร่เชื้อมีน้อย แต่ยังสามารถติดได้ ขณะนี้ถือว่านักท่องเที่ยวรายดังกล่าวผลเป็นลบแต่มีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง รพ.เกาะสมุย ส่งเชื้อตรวจเพิ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สุราษฎร์ธานี ผลออกช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งได้กำชับให้ตรวจด้วยวิธีที่ต่างกับแล็บ 2 แห่งแรก” นพ.ศุภกิจ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีการตรวจเจอเชื้อจากการปั่นวงรอบสูงๆ แปลได้ว่าเพิ่งเริ่มติดเชื้อ หรือเป็นเพราะขาลงหรือหายแล้ว นพ.ศุภกิจ กล่าวว่าหากตรวจครั้งแรกให้ผลเป็นลบ ตรวจรอบหลังผลเป็นบวกกรณีนี้เป็นช่วงขาขึ้น แต่หากตรวจครั้งแรกเป็นบวก ตรวจรอบหลังเป็นลบกรณีเช่นนี้ถือเป็นช่วงขาลง ดังนั้นในรายของนักท่องเที่ยวอิสราเอลค่อนข้างชัด ตรวจที่ประเทศต้นทางไม่พบติดเชื้อ พอมาถึงไทยตรวจพบผลเป็นบวกแปลว่าเป็นขาขึ้นระยะหนึ่ง แต่หลังจากนั้นผลตรวจเป็นลบแสดงว่าอยู่ในช่วงขาลง.